ปัจจุบันคนจำนวนไม่น้อยมีความสุขกับการเสพข้อมูลจากสื่อหรือสร้างสื่อให้คนเสพหรือเข้าเป็นแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในชุมชนของตนผ่านสื่อ ถือว่าเป็นอาหารสมองชั้นเลิศ ตื่นเช้ามาต้องดูทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ เปิดอีเมล แชทกับเพื่อน เขียนบล็อก สร้างเงื่อนไขให้กับตนเองกลายเป็นกิจวัตรที่ต้องถือปฏิบัติ เป็นความชอบธรรมที่ต้องทำทุกวัน ถ้าขาดไปก็เหมือนจะขาดใจ สื่อที่ให้ข้อมูลข่าวสารมีทั้งแบบทางเดียวและสองทาง ซึ่งมีอยู่หลายประเภท อาทิ ทีวี สื่อสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ แมซเซนเจอร์ เกมออนไลน์ โดยสื่อที่จับต้องได้จริงและมีความน่าเชื่อถือคือสื่อสิ่งพิมพ์ เพราะเป็นวัตถุเอกสารที่จับต้องได้ นำไปอ้างอิงได้ แพร่หลายไปยังทุกกลุ่มอาชีพ อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ และคนเขียนมักมีรายได้
สื่อสิ่งพิมพ์มีหลายประเภทแต่ที่แพร่หลายที่สุดคือหนังสือพิมพ์ หากจำแนกตามพื้นที่การขายก็จะแบ่งได้ 3 ประเภทคือ หนังสือพิมพ์ระดับชาติ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และหนังสือพิมพ์ชุมชน มีผู้พัฒนาเว็บไซต์หลายท่านเห็นว่าข้อมูลข่าวสารในหนังสือพิมพ์ระดับชาติมีคุณค่าจึงต่อยอดหรือยกระดับไปเผยแพร่ในรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ เว็บไซต์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ พีดีเอ จนเกิดกลุ่มหรือเวทีให้ผู้คนเข้าไปแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อประเด็นข่าวได้จากทุกที่ทุกเวลา เกิดกระบวนการจัดการความรู้ข้อมูลข่าวสารจนเกิดการเรียนรู้และเลือกนำไปใช้ในตามบริบทของตน
ปัจจุบันประเทศไทยขาดระบบฐานข้อมูลข่าวสารครบวงจรที่สามารถวิเคราะห์แยกข่าวตามกลุ่มเรื่อง จังหวัด พื้นที่ อาชีพ บุคคล หน่วยงาน ประเด็นปัญหา ช่วงเวลา ที่บูรณาการสื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภทเข้าด้วยกัน แม้เป็นเรื่องที่มีประโยชน์ แต่ขาดหน่วยงานที่จะรับภาระหนักและหลายท่านอาจบ่นพึมพำว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะรวมข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริงจากสื่อสิ่งพิมพ์หลายฉบับเข้าด้วยกัน แม้ผู้เขียนจะไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่าทุกปัญหาแก้ได้ด้วยเงิน แต่ปัญหานี้ใช้เงินแน่นอนอย่างน้อยก็ต้องใช้เงินซื้อหนังสือพิมพ์ เพราะต้องมีข้อมูลนำเข้าสู่ระบบและสรุปออกมาเป็นสารสนเทศให้สืบค้น แสดงรายงานสถิติเหตุการณ์เพื่อใช้เป็นบทเรียนประกอบการวางแผนในทุกสายอาชีพได้
สื่อสิ่งพิมพ์มีหลายประเภทแต่ที่แพร่หลายที่สุดคือหนังสือพิมพ์ หากจำแนกตามพื้นที่การขายก็จะแบ่งได้ 3 ประเภทคือ หนังสือพิมพ์ระดับชาติ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และหนังสือพิมพ์ชุมชน มีผู้พัฒนาเว็บไซต์หลายท่านเห็นว่าข้อมูลข่าวสารในหนังสือพิมพ์ระดับชาติมีคุณค่าจึงต่อยอดหรือยกระดับไปเผยแพร่ในรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ เว็บไซต์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ พีดีเอ จนเกิดกลุ่มหรือเวทีให้ผู้คนเข้าไปแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อประเด็นข่าวได้จากทุกที่ทุกเวลา เกิดกระบวนการจัดการความรู้ข้อมูลข่าวสารจนเกิดการเรียนรู้และเลือกนำไปใช้ในตามบริบทของตน
ปัจจุบันประเทศไทยขาดระบบฐานข้อมูลข่าวสารครบวงจรที่สามารถวิเคราะห์แยกข่าวตามกลุ่มเรื่อง จังหวัด พื้นที่ อาชีพ บุคคล หน่วยงาน ประเด็นปัญหา ช่วงเวลา ที่บูรณาการสื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภทเข้าด้วยกัน แม้เป็นเรื่องที่มีประโยชน์ แต่ขาดหน่วยงานที่จะรับภาระหนักและหลายท่านอาจบ่นพึมพำว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะรวมข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริงจากสื่อสิ่งพิมพ์หลายฉบับเข้าด้วยกัน แม้ผู้เขียนจะไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่าทุกปัญหาแก้ได้ด้วยเงิน แต่ปัญหานี้ใช้เงินแน่นอนอย่างน้อยก็ต้องใช้เงินซื้อหนังสือพิมพ์ เพราะต้องมีข้อมูลนำเข้าสู่ระบบและสรุปออกมาเป็นสารสนเทศให้สืบค้น แสดงรายงานสถิติเหตุการณ์เพื่อใช้เป็นบทเรียนประกอบการวางแผนในทุกสายอาชีพได้
เป็นไงบ้างครับ สำหรับบทความที่นำมาเสนอ ยังไงก็แสดงความคิดเห็นได้นะครับ -- ขอบคุณครับ--
นพพล (โอ)
ทำไม ฐานข้อมูลข่าวสารถึงเป็นบทเรียนของชีวิตเรา ?
ตอบลบ- เป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ
เพราะโลกปัจจุบันเป็นโลกของข้อมูล และข้อมูลที่นำมาเผยแพร่ก็จะเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง หากไม่ถูกต้องอาจเกิดการขายหน้ากันเกิดขึ้นได้นะค่ะ
**ขอบคุนสำหรับบทความค่ะ
วิภารัตน์ (แหม่ม)
ข้อมูลข่าวสารมีทั้งข้อมูลข่าวสารที่ดี และไม่ดีขึ้นอยู่ที่ผู้บริโภคจะเลือกสื่อข่าวสารรูปแบบไหน และถ้ามีระบบฐานข้อมูลข่าวสราช่วยในการคัดกรองข่าสารต่างๆก็จะช่วยเหลือผู้บริโภคในการบริโภคสื่อต่างๆได้อีกด้วย
ตอบลบวรุตม์(เน)
เห็นด้วยกับบทความนี้มากๆเลย ที่ว่าปัจจุบันข้อมูลข่าวสารเนี่ยมีความสำคัญกับชีวิตเรามาก
ตอบลบเพราะวันหนึ่งๆเราแทบจะได้รับข้อมูลข่าวสารมากมาย จากหลายแหล่งตลอดเวลา...
ดังนั้นจึงควรมีการคัดกรองที่ดีเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสื่อได้เลือกรับข่าวที่ดี จริง และครอบคลุม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ ^^
จิราพร(จูน)
แล้วเราจะนำข้อดีของระบบข้อมูลข่าวสารมาใช้ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบได้อย่างไรคะ
ตอบลบอืมมม
ตอบลบยังไม่รู้อะครับ
เหอๆๆ
อาทิตย์(หมี)
เป็นความจริงที่ ฐานข้อมูลข่าวสาร เป็น บทเรียนของชีวิต
ตอบลบเพราะถ้าเคยเกิดสิ่งนั้นกับเราหรือเป็นสิ่งที่เรากังวล สงสัย สนใจ อยู่แล้ว
เราจะลืมได้ยาก ยิ่งถ้าได้ใช้ความคิดแลกเปลี่ยนกันแล้ว
ยิ่งทำให้สมองเราพัฒนาไปด้วย
แต่ยิ่งมีความรู้มากเท่าไหร่ก็เหมือนกับยืนอยู่ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
มองได้กว้าง แต่ต้องระวังความสูงเช่นกัน
“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”
เกรียงไกร(อาท) ^_^