อ่านดูชื่อเรื่องแล้วอาจจะงงว่า เลขคณิตพิชิตสมองเสื่อมเกี่ยวอะไรกับวิชา SA ?
จากวันเสาร์ที่ผ่านมาที่เราได้เรียนวิชา SA กับอาจารย์จงดีไป อาจารย์ได้ฝึกให้เราได้คิดอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีสติและสมาธิมากขึ้น และสิ่งที่รู้สึกได้ก็คือในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาเราไม่ได้มาเรียนหนังสือเลยทำให้ไม่ได้ใช้สมองคิดกันเท่าไหร่ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือดีๆอีกเล่มนึงที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เพราะมันเป็นหนังสือที่ช่วยทำให้ผู้ที่อ่านใช้ฝึกฝนและรักษาสุขภาพของสมองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ทำให้เรามีสติและสมาธิมากขึ้น เมื่อเปิดเข้าไปข้างในเล่มจะเห็นโจทย์เลขง่ายๆทั้งเล่ม บางคนอาจนึกสงสัยว่าในการทำงานอาชีพในแต่ละวัน หรือการทำงานบ้านก็ใช้สมองมากมายอยู่แล้ว ทำไมต้องมานั่งทำโจทย์เลขง่ายๆเหมือนเด็กประถมอีก แต่จากการค้นคว้าของริวตะ คาวาชิม่า (ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้) พบว่าการทำโจทย์เลขง่ายๆนี่แหละจะกระตุ้นการทำงานของสมองได้ดีที่สุด การแก้โจทย์เลขอย่างลื่นไหลต่อเนื่อง จะเป็นการฝึกสมองแบบง่ายๆนั่นเอง ใจจริงอยากจะนั่งพิมพ์เนื้อหาวิธีการฝึกสมองซึ่งเป็นผลการศึกษาของคุณริวตะ มาให้เพื่อนๆอ่านเพราะมันน่าสนใจดี แต่จนปัญญาเพราะพิมพ์ช้า เนื้อหาก็เยอะ แต่พอดีไปเจอในเว็บบอร์ดอื่นที่เค้าคัดลอกเอาเนื้อหาในหนังสือบางส่วนมาลงไว้พอดี ลองอ่านกันดูน่ะจ๊ะ
หนังสือ “เลขคณิตพิชิตสมองเสื่อม” อ่านดูชื่อเรื่องตอนแรกอาจเข้าใจว่าเป็นหนังสือสำหรับให้คนมีอายุมากๆ 50 ปีขึ้นไป แต่เมื่ออ่่านเนื้อหาที่ผู้แต่งเขียนอธิบายว่าเป็นกระบวนการที่ผ่านการทดลองทางวิทยาศาสตร์มาแล้วว่าสามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานของสมองได้ แล้วหนังสือเล่มนี้เหมาะกับใครบ้างล่ะ ขอลอกข้อความจากในหนังสือมาละกัน
คนวัยผู้ใหญ่ที่ตระหนักในปัญหาต่อไปนี้
1. ขี้ลืมบ่อยขึ้น
2. นึกชื่อคน หรือคำศัพท์ไม่ออกบ่อยครั้งขึ้น
3. มีเรื่องอยากจะพูด แต่เรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดไม่ได้บ่อยขึ้น
และขอแนะนำให้กับคนกลุ่มต่อไปนี้
1. ผู้ที่อยากเพิ่มความคิดสร้างสรรค์
2. ผู้ที่อยากเพิ่มพลังความจำ
3. ผ้ที่อยากเพิ่มความสามารถในการสื่อสาร
4. ผู้ที่อยากเพิ่มการควบคุมตนเอง
5. ผู้ที่ไม่อยากความจำเสื่อม
หนังสือ “เลขคณิตพิชิตสมองเสื่อม” เป็นหนังสือสำหรับคนที่อ่านหนังสือไม่จำ ต้องอ่าน!!!
คุณริวตะ ได้เขียนวิธีการฝึกสมองที่มาจากงานวืจัยล่าสุดเกี่ยวกับสมอง ไว้ประมาณนี้
จากงานวิจัยการทดลองของ คุณริวตะ พบว่าแค่ "อ่านออกเสียง", "การคำนวนเลขธรรมดาๆ", "การเขียนอักษรภาพ(คันจิ)" แค่มีเวลาลองทำทุกวันก็สามารถฝึกสมองให้ปราดเปรื่องได้อย่างได้ผล ไม่ต้องมีสูตรลัดหรือวิธีซับซ้อนอะไรมากมายเลย
คุณริวตะได้เขียนบอกไว้ว่า ถ้าเทียบ ระหว่างการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์อย่างง่ายๆและเร็วๆ กับ ค่อยๆขบคิดแก้ปัญหา
ในขณะที่แก้ปัญหาแบบเร็วๆนั้น นอกจากลอนสมอง ส่วนประสาทตาทำงาน สมองส่วนล่างใช้ในการตีความตัวเลข ส่วนที่เป็น Wernike ซึ่งทำงานเมื่อไขความหมายของศัพท์ ส่วนยอดที่ทำงานคำนวนเหล่านี้จะทำงาน ลอนสมองส่วนหน้าซึ่งทำงานสูงสุดในสมองทั้งหมด ทำงาน ทั้ง "ซ้ายและขวา" เมื่อเทียบกับการค่อยๆขบคิด เราจะเห็นว่าสมองส่วนเดียวกันทำงานก็จริง แต่พื้นที่ใช้สมองก็จะน้อยกว่า
นอกจากนี้ ขณะกำลังครุ่นคิด หรือ ดู TV สมองแทบไม่ได้ใช้งานอะไรเลยดังนั้น วิธีการฝึกฝนสมอง ด้วยการคำนวนโจทย์เลขแบบง่ายๆ เป็นวิธีฝึกการใช้สมองได้ดีที่สุด
ในรูปแบ่งการทำงานของสมอง ส่วนหน้าใช้ในการออกกำลังกาย ส่วนยอดใช้เกี่ยวกับประสาทสัมผัส ส่วนข้างใช้ในการฟัง ส่วนหลังใช้รับสัญญานภาพ และลอนสมองส่วนหน้าเป็นแหล่งรวมพลังความสร้างสรรค์ พลังแห่งความทรงจำ พลังการสื่อสารและพลังการควบคุมตนเอง(สติสัมปัญชัญญะ)
ขณะดู โทรทัศน์ TVใช้งานสมองได้น้อยเหมือนกันจนมีรายงานวิจัยเรื่องเด็กอเมริกันเคยอ้างว่า การเอาแต่ดูทีวีทั้งวันโดยไม่ทำอะไร มีผลทำให้สมองฝ่อได้ เป็นผลให้ปัจจุบัน เด็กอเมริกันรุ่นหลังมี IQ ด้อยลง(สมองมีการ Input อย่างเดียวไม่ได้ใช้ส่วนที่ OUTPUT)
หลักการ ของ Dr. Ryuta จะอธิบายว่าการใช้สมองไปแก้ปัญหายากๆ บ่อยๆ ทำให้สมองไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ สมองมีการพัฒนาการได้น้อย....ขณะที่สมองที่ใช้แก้ปัญหาที่ไม่ยากนักแต่ทำด้วย "สปีตเร็ว" กลับ... สามารถพัฒนาการได้ดีกว่า เปรียบได้ว่า ให้ทำสิ่งที่เป็น เบสิกให้แน่นๆและเร็วๆ ถูกต้อง ไม่ใช่ไปเริ่มทำสิ่งที่ยากๆหรือ Advance เลยมันจะเป็นการไปหยุดยั้งการพัฒนาการทางสมองของคน ซึ่งหลักสูตรของ KUMON ที่ญี่ปุ่นจะสอนการพัฒนา IQ ให้เด็กนักเรียน ด้วยระบบแบบที่ Dr.Ryuta วางเอาไว้ เด็กที่ถูกสอนให้ทำเลขเบสิกให้แน่นๆเร็วๆและถูกต้อง (คำนวน บวกลบคูณหารธรรมดานี่หละ) สามารถไปเรียนรู้สิ่งต่างๆต่อไปได้ประสิทธิภาพดีกว่า เด็กที่เรียนด้วยระบบปกติ(ของญี่ปุ่น)
ถึง 20-30%
ทีนี้ เรื่องการฝึกความจำบ้างการทำงานของสมองด้วยการเขียนอักษรภาพ(คันจิ)
การนั่งอ่านหนังสืออย่างเดียว (สมองมีแต่การ INPUT ไม่มี การ OUTPUT) การทำงานของสมองขณะนั่งอ่านและออกเสียงไปด้วย (สมองทำงานได้ดีกว่านั่งอ่านอย่างเดียวเพราะสมองมีการ OUTPUT ออกไปด้วย) ดังนั้น การนั่งอ่านไปด้วย กลับทำให้จำได้แม่นกว่านั่งอ่านอย่างเดียว
สรุปคือ ให้ทำโจทย์เลขง่ายๆแต่ทำเร็วๆ ให้สมองพร้อมสำหรับการทำงานเต็มที่ เปรียบดังการทำอะไรที่ควรเริ่มจากง่ายและเบสิก จนพื้นฐานแน่นและสามารถทำได้รวดเร็วแล้วจะ พัฒนาสิ่งนั้นต่อไปที่ยากขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกแล้วและควรจะทำอะไรที่มันยากๆให้สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะทุกสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันมักเป็นสิ่งที่ไม่ได้ยากเสมอ
"พยายามแล้วพลาด ดีกว่าพลาดที่จะพยายาม" ^___________^
ที่มา : จากหนังสือ เลขคณิตพิชิตสมองเสื่อม เขียนโดย Dr.ริวตะ คาวาชิมะ แปลโดยคุณ อิศเรส ทองปัสโณว์
และ http://www.siamjurist.com/forums/334.html
ปวีณา สืบลือ (ปุ๋ย) 49040075
สาขาเทคโนโลยีการจัดการ (พิเศษ)
ได้มีโอกาสเห็นหนังสือเล่มนี้ครั้งนึงเมื่อตอนที่ปุ๋ยดุ๋ยเอามาให้ดู
ตอบลบมีแบบฝึกหัดให้ทำหลากหลายดี
เหมากะเด็กสมองซีกซ้ายแบบสนมวอน
ส่วนตัวแล้วทุกวันนี้สมองคงจะยังไม่เสื่อมแน่นอน
เพราะยังได้ไปสอนคณิตศาสตร์เด็ก ๆ ที่โรงเรียนสอนฯ อยู่
แต่อนาคต ถ้าไม่ได้ใช้นาน ๆ อาจจะเสื่อมได้ 555+
สนมวอนก็มีหนังสือ มาแนะนำเหมือนกันคับบบบบ
นี่เลย "เซียนตรรกกะ อัจริยะสมองซีกซ้าย" เป็นหนังสือแปลมาจากญี่ปุ่น อารมณ์เดียวกับของปุ๋ยดุ๋ยเนี่ยแหละคับบบบ
อยากเอาภาพมาลง แต่หาไม่เจอ 55+ เป็นการฝึกกระบวนการคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล ดีมากๆ แล้วก็มีโจทย์ให้ทำด้วย เก็บคะแนน ไปจนข้อสุดท้าย (มี 85 ข้อ) เพลิน ๆ ดี แล้วก็จะมีวัดมในตอนท้ายว่าเราอยู่ในระดับใด ประมาณนี้ ๆๆๆ
แห่ะ ๆ ร่ายซะยาวววววเรยยย
sanom_WON ~ I am GooD_kNIGHT
สนมวอน ~ อัศวินผู้แสนดี
06212009
08:26 am
____________________
พัฏฐวร (วอน)
ครูได้เคยลองอ่านแล้วดูเล่มนี้แล้ว ใครอยากจะลองอ่าน บอกนะจ้ะ
ตอบลบอาจารย์จงดี
วันนี้เพิ่งเดินไปเจอหนังสือ "เซียนตรรกกะ อัจริยะสมองซีกซ้าย" พอดีเรย
ตอบลบเราว่ามานก้อน่าอ่านดี
ไว้พัฒนาสมองอันน้อยนิดของเรา...เหอะๆ
พิมพ์ภัทรา (สายป่าน)
เป็นหนังสือที่น่าสนใจครับ เดี๋ยวผมจะลองไปหามาอ่านดู
ตอบลบวรุตม์(เน)
ช่าย หนังสือเล่มนี้น่าสนใจอยู่
ตอบลบเราเคยลองยืมปุ๋ยอ่านอยู่
สนุกดี เหมือนทำให้เราได้ฝึกสมอง
ชอบอะ
นิติรัตน์ (นิ)
งั้นเดี๋ยวต้องลองยืมจากปุ๋ยอ่านบ้างแล้ว
ตอบลบน่าจะใช้แก้ปัญหาโรคที่เรากำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ได้ _ _ **
อยากอ่านค้าฟฟฟฟฟ
ตอบลบเป็นวิธีคิดที่ดีมาก เพราะเราไม่ค่อยได้ใช้ความคิดของเราเองเท่าไหร่
ตอบลบนี่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้สมองได้ทำงาน เป็นการเริ่มต้นที่ง่าย
ทำได้ทุกคน บางทีเราเองอ่านหนังสือมากๆก็เริ่มงงๆ
ก็เลยมาอ่านออกเสียงแทน ก็นึกในใจว่าขอกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
ปรากฏว่าทำให้เราจำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเลย
เราก็เลยเข้าใจว่าฝึกสิ่งไหนมากก็จะเก่งสิ่งนั้น
อัจฉริยะสร้างได้
เกรียงไกร(อาท) ^_^
โปรแกรมฝึกคำนวณเลขง่ายๆ ครับ สำหรับ android ลองไปเล่นดู
ตอบลบhttps://play.google.com/store/apps/details?id=com.plusnum02