วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คุณประโยชน์ของความเครียด!?!


เชื่อได้เลยค่ะ ว่าทุกๆ คนต้องเคยเจอกับความเครียดแน่นอน และโดยส่วนใหญ่แล้วสาเหตุก็มักจะมาจาก เรื่องงานเป็นหลัก เราต้องปะทะกับกองทัพความเครียดที่คล้ายๆกัน ไม่ว่าจะเป็น “งานใกล้จะถึงเวลาส่งแล้ว แต่ยังทำไม่เสร็จเลย….เครียด” หรือ “ทำงานไม่ถูกใจ ผิดพลาด โดนหัวหน้าบ่น แถมต้องทำใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก…เครียด” หรือ ทีมงานทำงานไม่ได้ดั่งใจเลย ไม่ยอมทำอะไรสักอย่าง…เครียด” หรือสาเหตุอื่นๆ อีกนานานับประการ

ความเครียดก็เหมือนกับก้อนเมฆครึ้มสีดำ หรือมรสุมที่ก่อตัวเคลื่อนผ่านเข้ามาในชีวิตของเราและไล่ก้อนเมฆสีขาวแห่ง ความสุขของเราให้หายไป คนส่วนใหญ่จึงมักมองความเครียดในแง่ลบ เมื่อใดก็ตามที่เกิดสภาวะเช่นนี้ ก็ย่อมตอบสนองด้วยการหาทางหลีกหนี เพื่อมิให้เข้าไปอยู่ในวงมรสุมของเมฆดำครึ้มเหล่านั้น หรือพยายามหาทางหลบไปหาที่พักใจชั่วคราว เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด โดยอาจใช้วิธีบำบัดความเครียดด้วยการตั้งวงปาร์ตี้แอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่สามารถช่วยเปลี่ยนนิสัย จากทุกข์ใจ เครียด เป็นคนที่กล้า ท้าทาย คึกคะนอง ยิ่งเมาก็ยิ่งสนุก ดีกว่านี้หน่อย ก็ไปบำบัดด้วยการฟังเพลง ดูหนัง หรือแม้แต่นวดแผนโบราณ ซึ่งก็แน่นอนค่ะว่าเราอาจจะหายเครียดได้ชั่วครั้งชั่วคราว แต่เมื่อเราต้องกลับมาเผชิญกับสถานการณ์เดิมๆ ในโลกแห่งความเป็นจริง ที่เรายังไม่สามารถจัดการได้ ก็ย่อมเหมือนกับเรากลับเข้ามาอยู่ภายใต้สมรภูมิวังวนแห่งความเครียดเหมือนเดิม

หากเราลองมองอีกด้านหนึ่งของความเครียด โดยลองเปลี่ยนความเครียดจากศัตรู เป็น มิตร เราก็จะพบว่า แรงกดดันหรือความตึงเครียดที่เกิดขึ้นมานั้นก็มีคุณประโยชน์ต่อชีวิตเรา เหมือนกันหากว่าเรารู้จักใช้มันให้เป็น “แรงกดดัน ก็เป็นเหมือนเครื่องมือชั้นเยี่ยมที่ช่วยให้เราคิดสร้างสรรค์ หาแนวทางที่ดีกว่า รวดเร็วกว่า ในการทำงานให้สำเร็จ” ความตึงเครียดเป็นแรงกระตุ้นให้เราเกิดความกระตือรือร้นทั้งสมองและร่างกาย ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดความคิดและการกระทำในทางที่สร้างสรรค์ และในทางที่ทำลายล้างได้เช่นกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางความคิดและการตัดสินใจของแต่ละคน

คราวนี้ลองมาดูการตอบสนองความเครียดในมุมบวกกับสาเหตุของความเครียด ที่เราเจอกันบ่อยๆ กันดีกว่าค่ะ วิธีเหล่านี้เคยใช้บ่อยๆ เวลาที่เครียดเรื่องงาน

สาเหตุแรก :ทำงานยังไม่เสร็จเลย แถมใกล้จะต้องส่งแล้ว คนอื่นๆ ก็มาทวงเรื่อยๆ …เครียด

คิดในมุมบวก : มีประโยชน์ดีเหมือนกัน เพราะช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพในการทำงาน แถมเป็นอุทาหรณ์สอนใจในเราในอนาคตว่า ครั้งต่อไปเราจะต้องวางแผนการทำงานให้ดี จัดลำดับความสำคัญของงาน งานใดเร่งด่วน งานใดรอได้ และไม่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลย ผลัดไว้ทำพรุ่งนี้ไปเรื่อยๆ และมาเร่งทำงานในช่วงสุดท้าย โดยเราต้องมีความกระตือรือร้นทำงานอยู่ตลอดเวลา ใส่ใจรับผิดชอบงานอย่างเต็มที่ดีเยี่ยม และพยายามที่จะเอาชนะอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้งานสำเร็จและมีคุณภาพ ความเครียดเมื่อถูกกดดันให้ทำงานทันกับเวลา นอกจากจะช่วยให้เราเป็นคนขยันขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เราเกิดความชำนาญในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การจัดระเบียบความคิดที่มีระบบระเบียบและช่วยให้เป็นคนที่มีสมาธิในการทำงาน เพิ่มมากขึ้น

สาเหตุที่สอง : ทำงานไม่ถูกใจ ผิดพลาด โดนหัวหน้าบ่น แถมต้องทำใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก…เครียด

คิดในมุมบวก : มีประโยชน์ช่วยให้เราทำงานอย่างดีเลิศ เมื่อทำงานผิดพลาด อย่าแก้ปัญหาด้วยการโทษคนอื่นๆ หรือเศร้าเสียใจ เราควรเปลี่ยนความคิดของเราใหม่ว่า ความผิดพลาดเป็นครู ที่ทำให้เราเรียนรู้การทำงานให้ดีขึ้น ถูกต้องและรอบคอบยิ่งขึ้นในครั้งต่อๆ ไป และทำให้เราเกิดการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

สาเหตุที่สาม : ทีมงานทำงานไม่ได้ดั่งใจเลย ไม่ยอมทำอะไรสักอย่าง…เครียด

คิดในมุมบวก : มีประโยชน์ที่ท้าทายเราให้สามารถสร้างความเป็นหนึ่งเดียวในความหลากหลายของ บุคคล เนื่องจากการทำงานร่วมกับคนหมู่มากย่อมก่อให้เกิดความเครียดเนื่องจากผู้ ร่วมงานแต่ละคนต่างก็มีความคิดและรูปแบบการทำงานเป็นของตนเอง ดังนั้นจึงมีโอกาสที่การทำงานเป็นทีมจะไม่ราบรื่น อาจมาด้วยไม่ยอมให้ความร่วมมือ ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ไม่อยากรับภาระ หรือคนในทีมตั้งแง่แต่ต้นเลยว่าไม่สามารถทำงานชิ้นนี้ได้ทั้งที่ยังไม่เคย ลองดู หรืออื่นๆ อีกมากมาย หากใครเคยเจอปัญหานี้ ไม่ควรที่จะแก้ปัญหาด้วยการบ่นต่อว่าลับหลัง ไม่ควรเลือกที่จะทำงานร่วมกับคนบางคนในกลุ่ม หรือถอนตัวไม่ทำงานนี้ ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยให้งานที่ต้องทำร่วมกันประสบความสำเร็จในระยะยาว เราควรปลับเปลี่ยนความคิดเสียใหม่โดยมองสภาพที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งท้าทาย ให้เราต้องเรียนรู้ศิลปะในการทำงานร่วมกับคนอื่นๆ เรียนรู้ศิลปะในการทำให้แต่ละคนที่มีความแตกต่างกันทำงานร่วมกันได้ ทั้งศิลปะในการพูด ศิลปะในการสั่งการ หรือขอความช่วยเหลือ ศิลปะการสร้างมนุษยสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวในการทำงานท่ามกลางความหลากหลายของคนในทีม

เราคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเครียดจากการทำงานได้อย่าง แน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถที่จะพลิกความเครียดให้เป็นโอกาสกับชีวิตของตนเอง ด้วยการฝึกมองความเครียดในแง่บวกและใช้ประโยชน์จากความเครียดในการพัฒนาตน เอง และพัฒนางานต่อไป

เมื่อเราไม่เครียด ชีวิตเราก็จะมีความสุขกับการทำงาน ไม่เชื่อก็ต้องลองดูค่ะ ^^
จิราพร(จูน)

6 ความคิดเห็น:

  1. เห็นด้วยครับ ที่คนเราไม่สามารถแยกความเครียดออกจากงานได้ครับ แต่เราสามารถนำความเครียดมาพลิกให้เป็นโอกาสได้ ^^ บทความนี้ดีมากครับ สำหรับคนที่ชอบเครียด ^^

    นพพล(โอ)

    ตอบลบ
  2. มันก็จริงนะที่เราไม่สามารถวิ่งหนีความเครียดไปได้ตลอด

    ดังนั้นก็ใช้มันให้เป็นประโยชน์ซะเลยดีกว่า

    ความเครียดมันก็มีประโยชน์อย่างนี้นี่เองเนอะ

    ^_^

    แต่ทางที่ดีก็คิดบวกกันเข้าไว้จะดีกว่านะคะเพื่อนๆ

    เดี๋ยวสิ่งดีๆ ทั้งหลายก็เข้ามาหาเราเอง

    มนัสนันท์(มินต์)

    ตอบลบ
  3. เราเป็นคนนึงที่เวลาเครียดแล้วจะทำงานอะไรไม่ได้เลย


    แต่นานๆๆจะเครียดซักที ห๊าๆๆ

    ตอบลบ
  4. พูดง่ายๆ
    ความเครียด ความกดดัน

    ตัวเราเองต่างหาก ที่เปนผู้สร้างมันขึ้นมา
    เพราะฉะนั้นแร้ว ก้ต้องเปนผู้ที่จะละทิ้ง ปล่อยวาง ผ่อนคลาย ความรุ้สึกเหล่านั้น เพราะปล่อยไว้นานไป คงจะมะดีแน่

    เราก้เปนเหมือนกัน มะวานเลย ก่อนพรีเซ้นสัมมนา เครียดสุดๆ ค่อยคิดปัญหา ที่อาจารย์จะถาม แร้วก้เตรียมหาคำตอบ มารับมือ กับการที่อาจารย์จะยิงคำถาม
    แต่ก้เหนข้อผิดพลาดของตัวเองในเปเปอร์ที่ส่งไป ยิ่งทำให้รุ้สึกแย่ แต่ก้แก้ไขอะไรไม่ได้แร้วก้ส่งไปแร้ว ละก้ต้องยอมรับ เพราะสิ่งนั้นเปนสิ่งที่เราทำเองกับมือ เพราะฉะนั้น ก้จะโทษใครไม่ได้
    แต่มันจะเปนบทเรียนให้กับตัวเองในการทำงานต่อๆไป ว่าควรที่จะรอบครอบให้มากกว่านี้ แร้วก้ ความเครียดไม่ได้สร้างผลดีให้ตัวเองหรือคนรอบข้าง มีแต่จะสร้างบรรยากาศที่ครึ้ม ซึ่งจะส่งผลกระทบไปอีกในหลายๆอย่าง

    แต่วันนี้ เราพรีเซ้นสัมมนาผ่านไปแร้ว อย่างน้อยเราก้ยิ้มได้แร้ว ถึงแม้ยังจะต้องพรีเซ้นในครั้งหน้าอีก 5555

    สุภาวดี(ฝ้าย)

    ตอบลบ
  5. แต่ยังไงมันก็ทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่อยู่ดี

    อาทิตย์(หมี)

    ตอบลบ
  6. เรียกว่าเปลี่ยนแปลงความคิดนี่เองสิน่ะ

    นำสิ่งที่แย่ๆมาใช้ในการปรับปรุงตนเอง

    อติภัทร(แก๊ป)

    ตอบลบ