สนมวอนกลับมาอีกแล้วววว
คราวนี้มาพร้อมกับเรื่องราวที่เป็นคติสอนใจให้สนมวอนเข้าใจ "โลก"มากขึ้น และสามารถยืนอยู่บน "โลก" นี่ได้ต่อไป
จำได้ว่ามีอาจารย์ที่โรงเรียนเก่า ตอน ม.ปลายเคยเล่าให้ฟัง ครั้งหนึ่ง ก็เลยลองหา เอา จาก google (ขอบคุณ google ที่มีทุกสิ่งให้สนมวอนเลือกสรร จริงๆ) มาให้เพื่อน ๆ ได้ลองอ่านดูกันครับบ
คำสอนของ "อากง"
อากงแก่ๆ คนหนึ่ง รับหน้าที่เลี้ยงดูหลานที่กำลังอยู่ในวัยซนทั้งสี่ หลานทั้งสี่ก็เล่นกันบ้าง ตีกันบ้างตามประสาเด็ก แต่ครั้งหนึ่งรุนแรงจนถึงขนาดที่อากงต้องออกโรงห้ามปรามเมื่ออารมณ์ทุกฝ่ายสงบลง อากงจึงเรียกหลานๆมาล้อมโต๊ะคุยกัน
อากงบอก “เอาล่ะหลานๆ หลับตานะ หลับตา”
พอหลานๆหลับตา อากงก็เดินกลับเข้าไปห้องเก็บของแล้วหยิบตะเกียงเก่าๆ ออกมาอีกอันหนึ่ง
อากงเปิดฝาครอบ จุดไฟ แล้วปิดฝาครอบ จากนั้นก็บอกหลานทั้งสี่ให้ลืมตา “บอกซิว่าโคมไฟสีอะไร”
เด็กทั้งสี่ลืมตาขึ้น เห็นเปลวไฟในตะเกียงสี ต่างแย่งกันตอบ
คนที่นั่งด้านหนึ่งบอกว่า สีแดง
อีกด้านหนึ่งบอก สีเขียว
อีกด้านหนึ่งบอก สีเหลือง
และอีกด้านหนึ่งเห็น สีน้ำเงิน
จากคำตอบเล็กๆ กลายเป็นเสียงถกเถียง และเริ่มทะเลาะกันอย่างรุนแรงขึ้นอีกครั้ง จนเกือบกลายเป็นกรณีพิพาท
อากงนิ่ง ปล่อยให้อารมณ์ราวกับพายุของหลานทั้งสี่เริ่มสงบลง
หลานคนหนึ่งจึงเอ่ยปากถามว่า “อากงของอย่างเดียวกัน ทำไมจึงมีตั้งหลายสี ?”
อากงยิ้มแล้วบอกว่า “อากงจะทำอะไรให้ดู”
อากงเดินไปที่โต๊ะหยิบฝาครอบตะเกียงออก แล้วหมุนฝาครอบนั้นให้หลานๆดู
ปรากฏว่าฝาครอบตะเกียงนั้น ทั้งสี่ด้าน มีสีที่แตกต่างกันไป สีแดง สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน
อากงถามอีกว่า “คราวนี้บอกอากงซิว่า เห็นตะเกียงเป็นสีอะไร ?”
“สีของไฟ” หลานๆตอบเป็นเสียงเดียวกัน
“อากงขอถามอะไรสักสองข้อ เมื่อสักครู่นี้ใครตอบผิด ?”
หลานๆตอบโดยพร้อมเพรียงกัน “ไม่มีใครผิด”
อากงจึงกล่าวต่อไปว่า “เจ้าทั้งสี่นั่งอยู่ในที่เดียวกัน มองของอย่างเดียวกันในเวลาเดียวกัน ยังเห็นไม่เหมือนกัน นั่นก็เพราะคนทุกคนมองตะเกียง จากมุมมองของตัวเอง มองในสิ่งที่ตัวเองเห็น และก็เชื่อมั่นในสิ่งที่เห็น”
“แต่ถ้าเจ้าอยากรู้ว่า ทำไมคนอื่นจึงเห็นไม่เหมือนเรา แตกต่างกับเรา ก็จงเดินไปดูที่มุมของเขา แล้วเราก็จะรู้ จะเข้าใจว่า เขาเห็นอย่างไร เห็นและคิดได้อย่างที่เขาเห็น”
“ต่อไปในอนาคต เวลาที่พวกหลานๆ ต้องเข้าไปอยู่ในสังคม จะต้องพบคนต่างๆ มากมายที่มองสิ่งเดียวกัน แต่กลับเห็นไม่เหมือนกัน เพราะมีมุมมองที่แตกต่างกัน ก็อย่าไปโกรธเขา”
“เพราะนั่นเป็นเพียงแต่เป็นการมองต่างมุม ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด”
“และอย่าไปกลัวว่า ตัวเองจะผิดที่มองไม่เห็นเหมือนคนอื่น เพราะแต่ละคนก็จะมองเห็นสิ่งต่างๆ ด้วยขอบข่ายจากประสบการณ์ และจากสิ่งแวดล้อมของตนเอง”
“ถ้าเราอยากเข้าใจว่า ทำไมคนอื่นถึงคิดแบบนั้น เห็นแบบนั้น ก็จงเดินไปที่มุมของเขา
เราก็จะรู้ว่าเขาคิดอะไร ทำให้เราเข้าใจคนอื่นได้มากขึ้น
และเมื่อเราเข้าใจคนอื่นมากขึ้น จะทำให้คนอื่นยอมที่จะเดินมาและเข้าใจหลานเช่นกัน”
อากงถามต่อ “แล้วสิ่งที่เห็นครั้งแรกกับครั้งหลังเป็นของอย่างเดียวกันไหม”
หลานๆตอบ “อย่างเดียวกัน แต่ไม่เหมือนกัน”
“อย่างไร ?” อากงถาม
หลานตอบว่า “ครั้งแรกเราเห็นแต่ฝาครอบตะเกียงแต่ครั้งหลังเราเห็นเปลวไฟที่อยู่ในตะเกียง”
อากงจึงกล่าวว่า
“นี่เป็นการบอกว่า จงอย่ามองสิ่งต่างๆ
เพียงแค่ที่เห็น...แต่จงเข้าใจทุกสิ่งอย่างที่มันเป็น”
--------------จบครับ--------------
*******
ของสิ่งเดียว...แต่ทำไมแต่ละคนจึงมองเห็นไม่เหมือนกัน ?
ฝากไว้เท่านี้ครับ...
สนมวอน (เวอร์ชั่น โน ฟอแมท) อ๊ะๆๆๆ ไม่เอาดีกว่า เด่วไม่รุ้ว่านี้คือสนมวอนตัวจริง
sanom_WON ~ I am GooD_kNIGHT
สนมวอน ~ อัศวินผู้แสนดี
07082009
11:19 pm
____________________
พัฏฐวร (วอน)
เป็นครั้งแรกที่ไม่มีอะไรจะคอมเมนท์ตัวเอง 55+
ตอบลบสนมวอน (เวอร์ชั่น โน ฟอแมท)
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบอืมช่ายๆ
ตอบลบไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด
คำตอบของแต่ละคนขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่เคยได้ผ่านพบมาของแต่ละคนด้วย
อาทิตย์(หมี)
โลกไม่ได้มีเพียงแค่สีดำและสีขาวเท่านั้น
ตอบลบดังนั้นในบางครั้งจึงไม่มีประโยชน์เลยที่เราจะมานั่งตัดสินว่า
ใครที่เป็นคนถูกหรือผิด...
ถือว่าเป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดและมีประโยชน์มากเรื่องหนึ่ง
พรรณราย (แมม)
อือ ต่างคนก็ต่างมุมมองอะนะ ^^
ตอบลบคนเราแต่ละคนก็จะมีความคิดที่เกิดจากสิ่งที่พบเจอที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่แล้วก็จะคิดว่าความคิดของตนเป็นฝ่ายที่ถูก และคิดว่าผู้อื่นเป็นฝ่ายผิดที่คิดไม่ตรงกับตน...
แต่บางครั้งการเอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักรับฟังในมุมมองของคนอื่นบ้างมันก็ไม่เสียหายจริงไม๊จ๊ะ?
ชอบคำพูดของอากงที่ว่า... “นี่เป็นการบอกว่า จงอย่ามองสิ่งต่างๆ
เพียงแค่ที่เห็น...แต่จงเข้าใจทุกสิ่งอย่างที่มันเป็น” อะค่ะ
เป็นบทความที่ดีมากข่ะสนมวอน >______<
...งดงามเช่นกันข่ะ 555+
จิราพร(จูน)
ชอบอ่ะคำสอนสอนของอากง อากงสอนหลานได้ดีมากๆเลย
ตอบลบมันเป็นความจริงที่สุด
เพราะคนเรา
"ต่างคนต่างใจและต่างความฝัน เปิดใจให้กันและกันดีไหม "
พออ่านบทความนี้ทำให้นึกถึงคำคมในเรื่องพระจันทร์สีรุ้ง
ก็เลยอยากจะเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน
พ่อถาม "ลูกอยากให้พระจันทร์เป็นสีอะไร"
ลูกตอบ "ผมอยากให้พระจันทร์ของผมเป็นสีรุ้ง"
สีรุ้งเป็นสีที่สวยที่สุดในโลก มีทั้งสีที่เราชอบและไม่ชอบ
เหมือนชีวิตคนเราที่ต้องมีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย
การเจอเรื่องร้ายก็เหมือนการเอาสีที่เราไม่ชอบมาแต้มชีวิต
ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องอดทน
ยิ่งเราอดทนกับเรื่องร้ายได้มากเท่าไร
เราก็ใช้ชีวิตเราได้มีความสุขมากขึ้น
เหมือนสีที่รวมกันเป็นสีรุ้ง เป็นสีที่สวยกว่าสีอื่น
มนัสนันท์(มินต์)