วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ

วันนี้จะพาเพื่อนๆ มาทบทวนความรู้กับเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ

การออกแบบระบบมักจะใช้รูปแบบและสัญลักษณ์ เครื่องมือที่ใช้มีอยู่มากมายหลายชนิดแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ใช้ในโอกาสที่แตกต่างกัน เครื่องมือแต่ละอย่างมีวิธีการสร้างคุณสมบัติ และการใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับนักวิเคราะห์ระบบว่าจะนำไปใช้ในขั้นตอนใด

แผนภูมิ Block Diagram
เป็นแผนภูมิที่มีลักษณะของการใช้ Block สี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นตัวแทนของกิจกรรมต่างๆ หรือใช้แทนความคิดที่ต้องการจะทำการวิเคราะห์และออกแบบระบบงานซึ่งสามารถนำไปใช้ในการเขียนเป็นแผนภูมิของกิจกรรมต่างๆ ได้หลายอย่าง เช่น
1. การใช้ Block Diagram ในการเขียนแผนภูมิการจัดองค์กร (Organization Chart) ซึ่งเป็นแผนภูมิที่แสดงให้เห็นว่าองค์กรนั้นๆ มีการจัดการแบ่งเป็นองค์ประกอบย่อยๆ เช่น แบ่งออกเป็นฝ่ายแบ่งเป็นแผนก เป็นหน่วย มีงานอะไรบ้าง กี่หน่วยงานและหน่วยงานต่างๆ เหล่านั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันในทางสายการบังคับบัญชาอย่างไรเป็นต้น


2. การใช้ Block Diagram ในการเขียนแผนภูมิการทำงานของระบบงาน (System Flowchart) เป็นแผนภูมิแสดงความสัมพันธ์ในการทำงานของระบบใดๆ ว่าในระบบนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
3. การใช้ Block Diagram ในการเขียนแผนภูมิเพื่อแสดงขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม (Program Flowchart) เป็นแผนภูมิแสดงการทำงานของโปรแกรมแบบเป็นขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นโปรแกรม ไปจนสิ้นสุดการทำงาน ซึ่งอาจจะแบ่งออกเป็น Routione การทำงานใหญ่
4. การใช้ Block Diagram ในการเขียนแผนภูมิแสดงการไหลของข้อมูล (Data Flow Diagram : DFD) เป็นแผนภูมิที่ใช้สำหรับการแสดงการไหลไปของข้อมูลเพื่อแสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติงานไปตามลำดับขั้นตอน แผนภูมิการจัดองค์กร Organization Chart
เป็นแผนภูมิที่แสดงให้เห็นว่าองค์กรนั้นๆ มีโครงสร้างหรือการจัดการแบ่งเป็นองค์ประกอบย่อยๆ เช่น แบ่งออกเป็นฝ่าย เป็นหน่วยงานอะไรบ้าง กี่หน่วยงานและหน่วยงานเหล่านั้นมีความสัมพันธ์ในสายการบังคับบัญชาอย่างไร รวมทั้งแสดงถึงความสัมพันธ์ของแต่ระตำแหน่ง



ภาพที่ 7.1 แสดงแผนภูมิกาจัดองค์กร (Organization Chart)

แผนภาพการแจกจ่ายงาน (Work Distribution Chart)
เป็นแผนภาพแสดงการแจกจ่ายงาน ซึ่งแสดงให้เป็นถึงงานต่างๆ ที่ต้องทำว่ามีอะไรบ้าง ใครเป็นผู้ทำ และใช้เวลาเท่าใด รวมทั้งยังช่วยผู้บริหารโครงการแจกจ่ายงานให้แต่ละบุคคลได้อย่างทั้งถึงและสมดุล



ภาพที่ 7.2 ภาพแสดงการแจกจ่ายงาน

แผนภูมิ Gantt Chart (Gantt’s Chart)
เป็นแผนภูมิแท่งชนิด Bar Chart เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมต่างๆ ที่จะต้องกระทำกับระยะเวลาหรือเวลาสำหรับการปฏิบัติงานของกิจกรรมนั้นๆ ทำให้เข้าใจภาพรวมของระบบได้ง่ายขึ้น Gantt Chart ที่สร้างในส่วนบนตามแนวนอนจองตารางจะแสดงหน่วยเวลา เป็นชั่งโมง วัน สัปดาห์ เดือน หรือหน่วยเวลาตามที่นักวิเคราะห์ระบบกำหนด



ภาพที่ 7.3 แสดงแผนภูมิ Gantt Chart

ปฏิทินการปฏิบัติงาน (Time Schedule and Time Table)
เป็นปฏิทินในรูปแบบลักษณะของคาราง ซึ่งแสดงงานที่ต้องทำ วันที่ที่เริ่มทำงานและ วันที่ที่ท
ำงานเสร็จ


ภาพที่ 7.4 แสดงปฏิทินการปฏิบัติงาน

ตาราง Input / Output Table
เป็นคารางที่ใช้สำหรับการสร้างหรืออกแบบตาราง Output หรือตารางเสนอผลการประมวลผลต่างๆ ซึ่งประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วน คือ
1. ส่วนที่เป็นรายการ Input ประกอบด้วย รายการต่างๆ ทั้งหมดที่จะนำมาประมวลผล ส่วนนี้จะอยู่ทางด้านซ้ายมือของตารางสำหรับใช้ในการเลือกเป็นรายการของตารางปกติตารางหนึ่งๆ จะมีรายการที่มีความสัมพันธ์กับประมาณ 2-5 รายการ
2. ส่วนของเลขตาราง ซึ่งในส่วนนี้จะมีจำนวนตารางเท่าใดก็ได้

ประโยชน์ของตาราง Input / Output Table
1. ทำให้ทราบจำนวนตารางที่ได้ทำการออกแบบทั้งหมด
2. ทำให้ทราบความสัมพันธ์ของรายการต่างๆ ของแต่ระตาราง ซึ่งจะเป็นการง่ายในการออกแบบตารางต่อไป
3. เป็นการง่ายที่ตะตรวจสอบว่า มีรายการใดบ้างที่ยังไม่ได้รับการออกแบบตารางจะได้ทำการออกแบบตารางของรายการนั้นๆ ต่อไป
4. เป็นการง่ายที่จะตรวจสอบว่าตารางใดบ้างที่มีรายการซ้ำกัน ที่ควรจะทำการตักออก


ภาพที่ 7.5 แสดงตาราง Input / Output Table

การวิเคราะห์ข่ายงาน (Network Analysis)
แผนภาพเครือข่าย (Network) คือ แผนภาพที่ใช้แสดงกิจกรรมต่างๆ ที่จะต้องทำเพื่อให้โครงการสำเร็จลงอย่างมีระบบ ส่วนประกอบของเครือข่ายจะประกอบด้วย Node ซึ่งใช้แสดงเหตุการณ์ต่างๆ การเขียนตารางเวลาการทำงานโดยใช้เครือข่ายมีอยู่ 2 วิธีที่นิยมใช้กันอยู่ คือ
1. PERT : Program Evaluation and Review Technique
2. CPM : Critical Method

1. PERT : Program Evaluation and Review Technique
เป็นแผนภาพที่ใช้สำหรับแผนภาพที่ใช้สำหรับจัดตารางของงานในการพัฒนาระบบ ซึ่งแสดงถึงลำดับการทำงานกับเวลา รวมทั้งยังอำนวยความสะดวกให้ผู้วางแผน แผนภาพนี้มีความละเอียดในการแสดงรายละเอียดของงานได้มากกว่า Gantt Chart ที่แสดงเพียงลำดับของงานกับเวลา PERT เป็นเครื่องมือสำหรับการวางแผนและควบคุมให้งานต่างๆ สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด และยังแสดงความสัมพั
นธ์ระหว่างเหตุการณ์และกิจกรรมต่างๆ


ภาพที่ 7.6แสดงแผนภาพ PERT : Program Evaluation and Review Technique

ข้อดีของ PERT
1. ใช้พิจารณาจัดลำดับงานต่างๆ โดยเฉพาะงานที่ต้องทำเป็นอิสระจากกัน
2. ใช้ประมาณเวลาที่ใช้ในแต่ละกิจกรรม รวมทั้งเวลาที่ใช้ทั้งโครงการ
3. สารมารถชี้ให้เห็นงานที่มีผลกระทบต่องานอื่นๆ ทั้งโครงการ ถ้างานนั้นสำเร็จช้ากว่ากำหนด
4. ใช้ประมาณค่าเฉลี่ยของเวลาที่ใช้สำหรับการทำตารางใหม่ เพื่อโตรงการสำเร็จ
5. ใช้คำนวณเวลาที่ต้องใช้มากที่สุดสำหรับโครงการ

2. CPM : Critical Method
เป็นเครื่องมือทางด้านการจัดการเพื่อใช้ในการกำหนด การรวม และวิเคราะห์กิจกรรมรวมต่างๆ ที่จะต้องทำในโครงการอย่างประหยัดที่สุดและให้สำเร็จทันเวลา โดยเริ่มจากการแยกกิจกรรมต่างๆ ในโครงการออกเป็นกิจกรรมย่อยๆ ซึ่งกิจกรรมแต่ละกิจกรรมต้องใช้เวลาในการทำงานเป็นช่วงเวลาหนึ่ง ฉะนั้นจึงมีจุเริ่มต้นและขุดสิ้นสุดของแต่กิจกรรม Critical Path คือ การคำนวณระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นกิจกรรมแรกไปจนเสร็จสิ้นกิจกรรมแรกไปจนเสร็จสิ้นกิจกรรมสุดท้าย หากมีกิจกรรมที่ทำพร้อมกัน (เส้นขนานกัน) ให้ใช้เวลาที่นานที่สุดมาคำนวณ


ภาพที่ 7.7 แสดงกำหนดเวลา CPM : Critical Method
Critical Path คือ 1-2-3-4-5-6-7 ใช้เวลาทั้งหมด 10 วัน

นิติรัตน์ (นิ)

4 ความคิดเห็น:

  1. โทษทีคะ

    ลืมเครดิต

    เครดิต :http://itd.htc.ac.th/st_it50/it5012/P_3/System%20Analysis%20and%20Design/B7.htm

    ตอบลบ
  2. ถ้าSA ต้องใช้หมดเลยนะเนี่ย

    ณัฐพล(ท๊อป)

    ตอบลบ
  3. เห็น PERT กับ CPM เมื่อไหร่...แล้ว

    ทำให้คิดถึงวิชาการผลิตจริงๆเลย

    ตอนเรียนก็ไม่ค่อยตั้งใจเรียนด้วยซิเนี่ยเรา

    ขอบคุญที่ช่วยฟื้นฟูความจำอันน้อยนิดจ้า

    ปวีณา (ปุ๋ย)

    ตอบลบ
  4. รู้สึกว่า PERT CPM นั่น QA ชัดๆ
    วรุตม์ (เน)

    ตอบลบ