วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เครือข่าย Wi-Fi อันตรายหากไม่ป้องกัน [ตอนที่ 2]

การป้องกันภัยสำหรับเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi

ตาม หลักแล้วการสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ ระบบสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ควรคำนึงถึงปัจจัยหลายด้านทั้งทางด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องด้านความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักด้านความปลอดภัยของผู้ใช้งานและผู้ติดตั้งดูแลระบบ (Security Awareness) รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่ควรนำมาใช้เช่น การมีระเบียบหรือข้อควรปฏิบัติในการใช้งานเครือข่าย สำหรับผู้ใช้งานและผู้ดูแลระบบ รวมถึงบทลงโทษสำหรับการกระผิด เป็นต้น

เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง

• WEP (Wired Equivalent Privacy)
เทคโนโลยี WEPเป็นกลไกทางเลือกเดียวที่กำหนดไว้ตามมาตรฐาน IEEE 802.11 ในช่วง ยุคแรกๆ (ก่อนปี 2546) สำหรับการเข้ารหัสสัญญาณและการตรวจสอบพิสูจน์ตัวตน ผู้ใช้งาน ของอุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย Wi-Fi เทคโนโลยี WEP อาศัยการเข้ารหัสสัญญาณแบบ shared และ symmetric กล่าวคือ อุปกรณ์ของผู้ใช้งานทั้งหมดบนเครือข่ายไร้สายหนึ่งๆ ต้องทราบ รหัสลับที่ใช้ร่วมกันเพื่อทำเข้ารหัสและถอดรหัสสัญญาณได้ ปัจจุบันเทคโนโลยี WEP ล้าสมัยไปแล้วเนื่องจากมีช่องโหว่และจุดอ่อนอยู่มาก โดยช่องโหว่ที่เป็นปัญหาที่สุดคือ การที่ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถคำนวณหาค่ารหัสลับด้วยหลักทางสถิติได้จากการ ดักฟัง และเก็บ รวบรวมสัญญาณจากเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi หนึ่งๆ ได้เป็นปริมาณมากเพียงพอ โดยอาศัย โปรแกรม AirSnort ซึ่งเป็น Freeware ดังนั้นในปัจจุบันผู้ติดตั้ง และผู้ใช้งานควรหลีกเลี่ยง การใช้กลไก WEP และเลือกใช้เทคนิคทางเลือกอื่นที่มีความปลอดภัยสูงกว่า เช่น WPA (Wi-Fi Protected Access) และ IEEE 802.11i


• WPA & IEEE 802.11i
เทคโนโลยี WPA (Wi-Fi Protected Access) และ IEEE 802.11i เป็นเทคโนโลยีล่าสุด ตามมาตรฐาน IEEE 802.11 ที่เพิ่งได้รับการนำเข้าสู่ท้องตลาด เมื่อไม่นานมานี้คือ ประมาณช่วงต้นปี 2547 ซึ่ง มีความปลอดภัยสูงและควรนำมาใช้งานบนระบบเครือข่าย ไร้สาย Wi-Fi ของท่านเทคโนโลยี WPA (ซึ่งเป็นแกนหลักของ IEEE 802.11i) มีการใช้ กลไกการเข้ารหัสสัญญาณที่ซับซ้อน (TKIP: Temporal Key Integrity Protocol) โดยคีย์ที่ใช้ ในการเข้ารหัสสัญญาณ จะเปลี่ยนแปลงอัตโนมัติอยู่เสมอ สำหรับแต่ละผู้ใช้งานและทุกๆ แพ็กเก็ตข้อมูลที่ทำการรับส่งบนเครือข่าย มีกลไกการแลกเปลี่ยนคีย์ระหว่างอุปกรณ์ ผู้ใช้งานกับอุปกรณ์แม่ข่ายอย่างอัตโนมัติอีกทั้ง WPA ยังสามารถรองรับการพิสูจน์ตัวตนได้ หลากหลายรูปแบบ อาทิ

- WPA-PSK (WPA-Pre-Shared Key)
ซึ่ง ผู้ใช้ทุกคนใช้รหัสลับเดียวร่วมกันในการพิสูจน์ ตัวตนโหมด การทำงานนี้ได้รับ การพัฒนาขึ้นมา เพื่อมาทดแทนกลไก WEP นั่นเอง ซึ่งอาจเหมาะสำหรับเครือข่าย ที่มีผู้ใช้งานไม่มาก ได้แก่ เครือข่ายไร้สายตามที่อยู่อาศัยและตามที่ทำงานขนาดเล็ก


- WPA + EAP-TLS หรือ PEAP
สำหรับ โหมดนี้ ระบบเครือข่ายไร้สายจะต้องมี RADIUS server เพื่อทำหน้าที่ควบคุม การตรวจสอบพิสูจน์ ตัวตนผู้ใช้งาน และในทางกลับกันผู้ใช้งานจะตรวจสอบ พิสูจน์ ตัวตนเครือข่ายด้วย(Mutual Authentication) ซึ่งโหมดนี้ สามารถป้องกัน ทั้งปัญหา การลักลอบใช้เครือข่ายและการลักพา ผู้ใช้งานได้ โดยทางเลือก WPA + EAP-TLS จะมีการใช้ digitalcertificate สำหรับการตรวจสอบ พิสูจน์ตัวตนระหว่างระบบแม่ข่าย และผู้ใช้งานทั้งหมดบนระบบ สำหรับทางเลือก WPA + PEAP ซึ่งกำลังได้รับความ นิยมเป็นอย่างมาก ผู้ใช้ตรวจสอบ digital certificate ของระบบ ส่วนระบบจะตรวจสอบ username/password ของผู้ใช้งานโหมดนี้มีความปลอดภัย สูง และเหมาะสำหรับ เครือข่ายไร้สายในองค์กรที่มีขนาดใหญ ่และผู้ใช้งานส่วนมากใช้ระบบปฏิบัติการ MS Windows XP


• Mac Address Fitering
เทคนิค การจำกัด MAC address (MAC address filtering) เป็นกลไกสำหรับการจำกัด ผู้ใช้งานบนเครือข่ายไร้สาย ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน แต่มีความปลอดภัยต่ำ กล่าวคือ MAC address เปรียบเสมือน ID ของอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งๆ บนเครือข่าย ดังนั้นวิธีง่ายๆ ในการจำกัดผู้ใช้งานบนเครือข่ายสามารถทำได้โดยการสร้างฐาน ข้อมูล MAC Address ของอุปกรณ์ที่มีสิทธิเข้ามาใช้งาน เครือข่ายได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอุปกรณ์แม่ข่าย ระบบเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi จะสามารถรองรับการทำงานของกลไกนี้ ปัญหาของเทคนิคนี้คือ การปลอมแปลงค่า MAC address ของอุปกรณ์บนเครือข่าย สามารถทำได้โดยวิธีง่ายๆ เช่น ปรับแก้ค่าการทำงานของอุปกรณ์นั้นๆ ใน registry ของระบบปฏิบัติ MS Windows หรือใช้ โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับปรับตั้งค่า MAC address ของอุปกรณ์ เช่น โปรแกรม SMAC เนื่องจากเทคนิคการจำกัด MAC address เป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพต่ำและไม่ปลอดภัย ท่านจึงไม่ควรใช้เทคนิคนี้เป็นกลไกหลักเพียงกลไกเดียว สำหรับการจำกัดผู้ใช้งานบน เครือข่ายไร้สาย แต่อาจใช้ เป็นกลไกเสริมกับเทคนิคอื่นเช่น WPA หากต้องการเสริม ความปลอดภัยบนระบบให้สูงมากยิ่งขึ้น

ข้อควารปฏิบัติ สำหรับผุ้ใช้งานเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi นื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบันผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi มักจะเน้นเรื่องความสะดวก สบายของการติดตั้งและใช้งาน โดยอาจไม่ตระหนักหรือไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของการ ใช้งาน ดังนั้นผู้ใช้งานเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi จึงควรตระหนักถึงภัยอันตรายต่างๆ ที่แฝงมากับ ความรวดเร็วสะดวกสบายตามที่ผู้เขียนได้กล่าวมาแล้ว และควรคำนึงถึงข้อควรปฏิบัติเบื้องต้น ดังต่อไปนี้

• หลีกเลี่ยงการใช้งานเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัย กล่าวคือ ก่อนเข้าไปใช้งาน เครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ผู้ใช้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าระบบเครือข่ายไร้สายนั้นๆ มีการเข้ารหัสสัญญาณด้วยเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง เช่น WPA, IEEE 802.11i หรือ VPN (Virtual PrivateNetwork) เป็นต้น

• หลีกเลี่ยงการรับส่งข้อมูลที่เป็นความลับผ่านแอปพลิเคชัน หรือโพรโตคอลที่ไม่มีการเข้า รหัสข้อมูล เช่น โพรโตคอล HTTP, TELNET, FTP, SNMP, POP และ Internet Chat เป็นต้น โดยผู้ใช้ควรเลือกใช้ซอฟต์แวร์ต่างๆ สำหรับ เข้ารหัสข้อมูลก่อนทำการส่งผ่าน เครือข่ายไร้สายหรือ เลือกใช้งานเฉพาะโพรโตคอลและแอพพลิเคชั่นที่มีการเข้ารหัสข้อมูล เช่น HTTPS, SSH, PGP เป็นต้น

• เสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบคอมพิวเตอร์ของท่านเพื่อป้องกันการถูกโจมตี Hacked หรือติดไวรัส อาทิ

- การอัปเดตโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ระบบปฏิบัติการอยู่เสมอ (Update OS Patches)
- การติดตั้งและใช้งานโปรแกรมจำพวก Personal Firewall เช่น Windows XP Firewall หรือ Zones Alarm
- การติดตั้งใช้งานโปรแกรม Anti-Virus และอัปเดตฐานข้อมูล ไวรัสของโปรแกรมให้ทันสมัยอยู่เสมอ
- Disable ฟังก์ชันการแชร์ไฟล์และเครือข่าย และฟังก์ชัน Remote Desktop/Remote Login ของระบบ ปฏิบัติการ

• ตรวจสอบและพิจารณาข้อมูลต่างๆ ที่ระบบปฏิบัติการหรือ Web Browser เตือนขึ้นมาเพื่อ แจ้งความเสี่ยงอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำเตือนเกี่ยวกับ ปัญหา Invalid Digital Certificate หรือ Untrusted Certificate Authority ซึ่งอาจแสดงถึงว่ามีกำลังมีการโจมตีระบบ ของท่านเกิดขึ้น* เปิดใช้อุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ของท่านเมื่อต้องการ เข้าใช้งาน เครือข่ายหนึ่งๆ และปิดหรือ disable อุปกรณ์ ดังกล่าวเมื่อท่านเลิกใช้งานแล้ว

บทสรุป
เครือข่ายไร้สาย Wi-Fi เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์อยู่มากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำให้เกิดความ สะดวกต่อผู้ใช้ในการต่อเชื่อมเข้ากับเครือข่ายได้อย่างสะดวก และมีอิสระแต่ก็ทำให้เกิดความ เสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับข้อมูลซึ่งมีการสื่อสารกัน บนระบบเพราะอาจจะถูกโจรกรรมได้โดยง่าย การที่บุคคลภายนอกลักลอบเข้ามาใช้เครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ลักลอบใช้เป็นฐานโจมตี เครือข่ายอื่นๆ ได้หากไม่มีการป้องกันภัยอย่างเหมาะสม โดยการนำเอาเทคโนโลยีรักษาความ ปลอดภัยที่มีความปลอดภัยสูงมาใช้งาน บนระบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยี การเข้ารหัส สัญญาณและการตรวจสอบพิสูจน์ตัวตน ผู้ติดตั้งระบบเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ควรหลีกเลี่ยง เทคโนโลยี WEP ซึ่งมีจุดอ่อนอยู่มาก และเลือกใช้เทคโนโลยี WPA หรือ IEEE 802.11i ซึ่งมีความปลอดภัยสูงสำหรับเครือข่ายขนาดเล็ก ควรเลือกใช้เทคโนโลยี WPA ในโหมด WPA-PSK เป็นอย่างน้อย ส่วนเครือข่ายในองค์กรขนาดใหญ่ ควรมีการใช้งานเทคโนโลยี WPA ใน โหมด WPA + EAP/TLS หรือ WPA + PEAP นอกจากนี้ผู้ใช้งานเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ควร ตระหนักถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่แฝงอยู่กับความสะดวกสบายในการใช้งาน หลีกเลี่ยงการรับส่งข้อมูล ที่เป็นความลับ และเลือกใช้งานโพรโตคอลและ แอปพลิเคชันที่มีการ เข้ารหัสข้อมูลเช่น HTTPS, SSH, PGP เป็นต้น

ที่มา http://www.itubon.com

สิทธิลักษณ์(ฟีล์ม)

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เตือนภัย! วัยรุ่นติดเน็ตอันตราย

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน วันนี้ผมมีบทความเตือนภัยสำหรับคนที่ติดการเล่นอินเทอร์เนตเป็นประจำ ว่ามันจะมีโทรอย่างไรบ้าง แล้วอันตรายอย่างไร
อย่างที่เราทราบกันดีนะครับว่า “อินเตอร์เน็ต” นั้นเหมือนดาบสองคม สามารถให้ทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์แก่ผู้ที่ใช้ได้ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้นั้นจะมีวิจารณญาณในการใช้ ซึ่งแน่นอนครับว่าในช่วงของวัยรุ่นแล้วการใช้อินเตอร์เน็ตนั้นเป็นอีกหนึ่ง ปัจจัยเสียงที่จะสร้างปัญหาให้กับวัยรุ่นได้

เด็กดีดอทคอม :: เตือนภัย : วัยรุ่นติดเน็ตอันตราย!!!; tags: เตือนภัย , มิจฉาชีพ , ทรัพย์สิน , อินเตอร์เน็ตเตือนภัย : วัยรุ่นติดเน็ตอันตราย!!!

เมื่อเร็วๆ นี้ มีผลสำรวจจากประเทศออสเตรเลียออกมาว่า พ่อแม่ชาวออสเตรเลียนกำลังมีความเป็นห่วงลูกหลาน หลังจากมีข่าวเด็กวัยรุ่น "ฆ่าตัวตาย" เพราะถูกกลั่นแกล้ง รังแก ผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือโทรศัพท์มือถือ
ข่าวเด็กหญิงชาวเมืองเมลเบิร์นวัย 14 ฆ่าตัวตาย และแม่ของเด็กหญิงกล่าวโทษว่าเป็นเพราะลูกสาวถูกคุกคามทางอินเตอร์เน็ต โดยก่อนจะเสียชีวิตลูกสาวได้เล่าให้เธอฟังว่ามี "ข้อความ" ที่ เขียนถึงตัวเธอในทางเสียหาย และได้ไปโผล่ในอินเตอร์เน็ต ทำให้เธอเครียดมาก และอยากฆ่าตัวตาย กลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ การข่มเหง รังแกผ่านโลกไซเบอร์ กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา และทำให้มีการสำรวจตามโรงเรียนต่างๆ ซึ่งจากผลสำรวจในเด็ก 200,000 คน พบว่ามีอยู่ 10% ที่บอกว่าเคยโดนรังแก รังควานแบบนี้มาแล้ว

เด็กดีดอทคอม :: เตือนภัย : วัยรุ่นติดเน็ตอันตราย!!!; tags: เตือนภัย , มิจฉาชีพ , ทรัพย์สิน , อินเตอร์เน็ต เตือนภัย : วัยรุ่นติดเน็ตอันตราย!!!

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวมีนักจิตวิทยาหลายคนได้ออกมาให้ความเห็นว่าเด็กๆ ผู้ตกเป็นเหยื่อมีแนวโน้มที่จะมีความเครียด วิตกกังวล และสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเอง อันนำไปสู่ความคิดอยากฆ่าตัวตาย

ส่วนเด็กและวัยรุ่นที่ตกเป็นเหยื่อเล่าว่า การกลั่นแกล้ง รวมทั้งข่าวลือต่าง ๆ เกี่ยวกับพวกเขา มันทำให้เขารู้สึกว่าถูกทำลายชื่อเสียง รู้สึกว่าอาจมีคนไม่ชอบพวกเขา โดยมันทำลายชีวิตเขาทั้งทางสังคม อารมณ์ จิตใจ

นอกจากนี้ในผลสำรวจยังกล่าวว่า หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่พบจากการสำรวจครั้งนี้ก็คือ เด็กๆ รู้สึกว่าผู้ใหญ่ไม่ได้มองปัญหาภัยคุกคามทางโลกอินเตอร์เน็ตอย่างซีเรีย สจริงจัง

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ใกล้ตัวที่สร้างอันตรายให้กับวัยรุ่นได้โดยที่ไม่มีใครคาดคิดจริงๆ นะครับ แบบนี้เห็นทีเพื่อนๆทุกคนจะต้องรู้จักใช้อินเตอร์เน็ตอย่างฉลาดและรู้เท่าทันให้มากขึ้นซะแล้วล่ะครับ

ที่มาของข้อมูล http://www.dek-d.com

นพพล (โอ)

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เพลย์สเตชั่น 3



โซนี่ ประกาศลดราคาเพลย์สเตชั่น 3 ทั่วโลก


โตเกียว 19 ส.ค. - บริษัทโซนี่ คอร์ป ประกาศลดราคาเครื่องเล่นวิดีโอเกม เพลย์สเตชั่น 3 ทั่วโลก ซึ่งนักวิเคราะห์เห็นว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายได้แน่ แม้กำไรจะลดลงไปบ้าง


โซนี่ เปิดตัวเครื่องเพลย์สเตชั่น 3 รุ่นใหม่ที่บางกว่ารุ่นเดิม ในวันนี้ (19 ส.ค.) โดยเพิ่มความจุของฮาร์ดไดรฟ์ เป็น 120 กิกะไบต์ จากเดิม 80 กิกะไบต์ พร้อมกับลดราคาลงมาประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ทั่วโลก


โซนี่ยังได้ลดราคาเครื่องเพลย์สเตชั่น 3 โฉมปัจจุบันให้มีราคาเท่ากับโฉมใหม่ โดยลดราคาเครื่องที่วางจำหน่ายในสหรัฐ จากเครื่องละ 399 ดอลลาร์สหรัฐ (13,965 บาท) ลงมาอยู่ที่ราคา 299 ดอลลาร์สหรัฐ (10,465 บาท) ส่วนเครื่องที่วางขายในยุโรป ก็จะลดราคาลงจากเครื่องละ 399 ยูโร (19,270 บาท ) เหลือ 299 ยูโร (14,440 บาท) ส่วนที่ญี่ปุ่น ยังคงราคาขายไว้ตามเดิมคือ เครื่องละ 420 ดอลลาร์สหรัฐ (14,700 บาท)


ชอว์น เลย์เดน ประธานโซนี่ คอมพิวเตอร์ เอ็นเตอร์เทน เจแปน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเกมของโซนี่ บอกว่า เพลย์สเตชั่น 3 โฉมใหม่จะวางขายในญี่ปุ่น วันที่ 3 กันยายนนี้ ในราคาเครื่องละ 315 ดอลลาร์สหรัฐ ( 11,025 บาท) การลดราคาครั้งนี้เพื่อให้รับกับช่วงฤดูกาลจับจ่ายซื้อของก่อนสิ้นปี ซึ่งบริษัทผู้ผลิตเกมหวังจะสร้างยอดขาย


โซนี่ มียอดขายเครื่องเพลย์สเตชั่น 3 ทั่วโลก ตั้งแต่วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2549 เป็นจำนวนกว่า 23.7 ล้านเครื่อง แต่ยอดขายก็ยังตามหลังคู่แข่ง คือ นินเทนโด ซึ่งมียอดจำหน่ายเครื่อง วีทั่วโลกถึง 52.6 ล้านเครื่อง ขณะที่เครื่องเอกซ์บ๊อกซ์ 360 ของไมโครซอฟท์ มียอดขายทั่วโลกกว่า 31.4 ล้านเครื่อง นักวิเคราะห์ตลาดเกม เชื่อว่า การลดราคาเพลย์สเตชั่น 3 จะได้รับการต้อนรับจากแฟนเกมส์ ขณะที่บางคนบอกว่า การหั่นราคาของโซนี่ เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้โซนี่สูญเสียกำไรเป็นเงินกว่า 105 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โซนี่วางแผนจะขายเครื่องเพลย์สเตชั่นให้ได้ 13 ล้านเครื่อง ในปีการเงินที่จะสิ้นสุดเดือนมีนาคม ปีหน้า มากกว่าปีการเงินที่ผ่านมา ที่จำหน่ายได้ 10 ล้านเครื่อง ซึ่งการลดราคาครั้งนี้ จะทำให้เป็นไปตามที่คาดการณ์.

10 เกมอันตราย

เห็นเพื่อนๆ ชอบเล่นเกมส์กัน วันนี้ เรามีรายชื่อ 10 เกมส์ ที่กระทรวงสาธารณะสุขของสหรัฐเผยว่า

อันตรายควรให้พ่อแม่แนะนำลูกๆในการเล่นเกมส์ มาฝากกัน
1.แกรนด์ เทฟต์ ออโต้ (GTA-Grand Theft Auto)
เป็นเกมส์ที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เนื้อหาของเกมส์ค่อนข้างรุนแรง และเป็นการฝึกผู้เล่นให้ปฏิบัติภาระกิจที่ผิดกฎหมายต่างๆ ป่าเถื่อน บ้าคลั่ง ถ้าผู้เล่นเป็นเด็ก ที่ขาดวิจารณญาณ ทำให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง และปลูกจิตสำนึกในทางไม่ดีได้


2.แมนฮันต์ (Manhunt)
เป็นเกมส์ที่ออกมาแนวรุนแรงอีกเกมส์ ที่ไม่มีการเซ็นเซอร์ ทำให้ผู้เล่นเกิดอาการเครียดได้


3.สการ์เฟซ (Scarface)

4.ห้าสิบเซ็นต์ : บุลเลตพรูฟ (50 Cent : Bulletproof)




5.สามร้อย : เดอะวิดีโอ เกม (300 : The Video Game)
เป็นเกมส์ที่สร้างมาจากภาพยนตร์ แต่ว่าเนื้อหารุนแรงกว่า ที่ไม่เหมือนภาพยนตร์ก็คือ ผู้เล่นมีส่วนร่วม ทำให้เกิดการติดตามากกว่าดูภาพยนตร์ที่ผ่านไปเฉยๆ


6. เดอะ ก็อดฟาเธอร์ (The Godfather)

7.คิลเลอร์ 7 (Killer 7)



8.เรสซิเดนต์ อีวิล 4 (Resident Evil 4)
เป็นเกมส์ที่ได้รับความนิยมมากๆ เกมส์หนึ่ง เนื้อหาเป็นการจัดการกับฝูงซอมบี้ แต่ก็ถือว่ามีความรุนแรง ฉากสยองๆ มากพอสมควร บางคนอาจจะเกิดอาการผวาเวลาเดินคนเดียว ประมาณว่าหลอนพอสมควรนะครับ
9.ก็อด ออฟ วอร์ (God of War)
เกมส์ในระบบ PS2 ที่ติดอันดับต้นๆ ของเกมส์ที่มีคนเล่นเยอะ เกมส์สนุก แต่ว่า ฉากในเกมส์ค่อนข้างรุนแรง

10.ฮิตแมน : บลัด มันนี่ (Hitman : Blood Money)


เราไม่ได้กลัวว่าเพื่อนๆจะเลียนแบบตัวละครในเกมส์แต่กลัวเพื่อนๆจะเครียดกับการเล่นเกมส์

มากกว่านะค่า ^^หรือจะนำไปแนะนำน้องๆเด็กๆที่เล่นเกมส์พวกนี้กันก็ได้นะคะ เพราะน้องชายเราเล่นแล้ว

อินกับเกมส์ GTA มากเหลือเกิน ไม่ยอมทำการบ้าน 555

นัฐญา (นัท)


ที่มา:http://news.sanook.com/social/social_293640.php

เป็นไปได้หรือที่ I phone ระเบิด !!


โทรศัพท์มือถือระบบสัมผัส และเครื่องเล่นเอ็มพี 3 สุดหรู จากค่ายไอทีชื่อดัง ระเบิด ที่ประเทศฝรั่งเศส ด้าน บ.ต้นสังกัดขอตรวจสอบรายละเอียดก่อนหนังสือพิมพ์ เลอ มงด์ (Le Monde) ของฝรั่งเศสรายงานวันนี้ ( 27 ส.ค. ) ว่า เกิดเหตุโทรศัพท์มือถือ iPhone และเครื่องเล่นเพลง เอ็มพี 3 iPod touch จากค่าย Apple ระเบิด กระจกหน้าจอแตกกระจาย เป็นเหตุให้ เศษกระจกกระเด็นเข้าตา วัยรุ่นชายวัย 18 ปี ชาวฝรั่งเศส ผู้ใช้โทรมือถือเครื่องดังกล่าว ด้านมารดาของหนุ่มผู้นี้ ตั้งใจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากค่ายมือถือต้นสังกัดนอกจากนี้เครื่องเล่นเอ็มพี 3 iPod touch
เกิดเหตุประหลาดเช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือ เจ้าของเครื่องเล่นนี้ เป็นเด็กสาวชาวฝรั่งเศส โดยบิดาของเธอกล่าวต่อสื่อท้องถิ่นว่า เครื่องเล่นเพลงร้อนขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นราว 30 วินาที เครื่องจึงระเบิดคณะกรรมาธิการการเตือนภัยสินค้าอันตรายแห่งยุโรป หรือ Rapex ส่งเรื่อง ขอรายงานการพัฒนาระบบโทรศัพท์ทั้งหมด จากบริษัทนสังกัดเจ้าของอุปกรณ์ไอที ที่สหรัฐอเมริกา
ด้านโฆษกบริษัท Apple เปิดเผยว่า กรณีนี้จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และต้องมีการทดสอบเพื่อหาต้นตอของปัญหา เชื่อว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากแบตเตอร์รี่คุณภาพต่ำ และต้องการให้สังคมโลกรอการตรวจสอบที่แน่ชัดจากบริษัทก่อน ซึ่งในขณะนี้บริษัทไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้มากเกินกว่านี้มีรายงานเพิ่มเติมว่าโทรศัพท์มือถือยี่ห้อนี้ระเบิดมาแล้ว 8 เครื่อง ส่วนเครื่องเล่นเอ็มพี 3 นั้นระเบิด 15 เครื่องสำหรับเมืองไทย บริษัททรูมูฟ เปิดเผยว่า โทรศัทพ์ iPhone 3G S Wi-Fi มียอดจองพุ่งสูงกว่า 10,000 เครื่อง ซึ่งมากกว่าการจองเครื่อง iPhone 3G Wi-Fi ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า แต่เนื่องจากการเปิดตัว iPhone 3G S Wi-Fi นี้เป็นการเปิดตัวพร้อมกันหลายประเทศทั่วโลกและกระแสตอบรับดีมาก ทำให้ลูกค้าทั่วโลกต้องทยอยรับเครื่อง ซึ่งทรูมูฟได้รับเครื่อง iPhone 3G S Wi-Fi ล็อตแรกมาเพียง 3,500 เครื่อง และจะส่งมอบเครื่องให้กับลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ ในวันที่ 28 สิงหาคมนี้
ps. กำลังเป็นที่ฮิตในกลุ่มวัยรุ่นกันเรยนะเนี่ย ถ้าจะดี ก็หลีกเลี่ยงไปใช้ BB กันก่อนก้แร้วกัน ฮ่าๆๆ
สุภาวดี (ฝ้าย)

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ไฮสปีดบรอดแบนด์ ถึงเวลาติดจรวดโลกไซเบอร์

*ผู้ประกอบการบรอดแบนด์อัปเกรดไลฟ์สไตล์คน Gen C

* เซตมาตรฐานใหม่บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเทียบเท่าต่างชาติ

* เปิดประสบการณ์ใหม่ คนท่องเว็บ ต้องแรงสุดๆ


ตลาดบริการไฮเทคที่นับวันทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ และจะฮอตยิ่งขึ้นเมื่อประเทศไทยมีการออกใบอนุญาตให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จี ก็คือ บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือจะเรียกว่า บรอดแบนด์ ก็ได้

บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นบริการที่เพิ่งได้รับความนิยมในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ เมื่อทางบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดฉากดัมป์ 'ราคา' อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยี 'เอดีเอสแอล' ลงมาเหลือเพียง 590 บาท บนความเร็วในการดาวน์โหลด 1 เมก สำหรับผู้ใช้บริการ 'ทรู' ในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญต่อตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในประเทศไทย หนึ่ง มาตรฐาน 'ราคา' ซึ่งถือเป็นการตั้งมาตรฐานราคาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงขั้นต่ำขึ้นมาเป็นครั้งแรก ซึ่งถูกกว่าของ 'บัดดี้ บรอดแบนด์' ที่เคยสร้างความฮือฮาราคาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 1 เมก ไว้ที่ราคา 650 บาทมาก่อนหน้านี้ได้ในบัดดล สอง มาตรฐาน 'ความเร็ว' อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่จะต้องไม่ต่ำกว่า 1 เมก ในราคา 590 บาท

นับจากนั้นมาจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันมีการประเมินกันว่า ตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเอดีเอสแอลปีนี้น่าจะมีถึง 1,500,000 พอร์ต ซึ่งยังมีสัดส่วนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ที่ทางสภาพัฒน์ประเมินว่า น่าจะมีถึง 13,600,000 ราย

สาเหตุที่ทำให้อัตราการเติบโตของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในบ้านเราเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่ง เป็นการแข่งขัน 'ความเร็ว' อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่นับวันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุอีกประการน่าจะมาจากความต้องการใช้งานแอปพลิเคชั่นบนอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนไปจากเดิม ที่ผู้ใช้หันมาใช้บริการมัลติมีเดียจากเว็บไซต์ดังๆ อย่าง ยูทูบ เฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ ซึ่งต้องใช้แบนด์วิธหรือความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลที่สูงขึ้น

หากถามว่า 'ใคร' คือผู้จุดชนวนการแข่งขันเรื่อง 'ความเร็ว' ของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในตลาดเมืองไทยนั้น คำตอบคงไม่ใช่ 'ทรู' ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ราคาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พระเอกของงานนี้ ก็คือ บริษัท ทริปเปิ้ลที บรอดแบนด์ จำกัด เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ได้เปิดตัวแคมเปญ 'แม็กซ์เน็ต 3 เมก' ราคา 590 บาท พร้อมๆ กับการเปิดตัวเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ 'แม็กซ์เน็ต' รุกคืบเข้ามาแย่งตลาดของทรูในกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ตลาดหลักของแม็กซ์เน็ตอยู่ในตลาดต่างจังหวัดบนเครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานของบริษัทแม่ 'ทีทีแอนด์ที' โดยเป็นไปตามข้อสัญญาสัมปทานเดิมที่ยังไม่ให้แม็กซ์เน็ตเปิดให้บริการในกรุงเทพฯ ได้

การบุกตลาดในครั้งนั้นส่งผลให้แม็กซ์เน็ตมียอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 470,000 ราย

เมื่อการรุกตลาดกรุงเทพฯ ของแม็กซ์เน็ต ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญของทรูออนไลน์ ทางทรูจึงได้เกทับด้วยการเปิดแพกเกจ 8 เมกออกมา จนกระทั่งต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัท ทริปเปิ้ลที บรอดแบนด์ จำกัด เปิดฉากรุกอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอีกครั้งด้วยการเปิดตัวแพกเกจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เป็น 'พรีเมียมแพกเกจ' ภายใต้ชื่อบริการ '3บีบี' ด้วยข้อเสนอความเร็ว 10 เมก ในราคา 1,490 บาทต่อเดือน พร้อมๆ กับการเปิดตัวแคมเปญโฆษณาทางโทรทัศน์เพื่อตอกย้ำแบรนด์ให้ติดตลาดเร็วยิ่งขึ้น


ครั้นถึงกลางเดือนกรกฎาคม ทาง 'ทรู' ก็ลุกขึ้นมาสู้เพื่อทวงคืนความเป็นผู้นำในตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ด้วยการเกทับความเร็วเป็น 12 เมก

'นนท์ อิงคุทานนท์' ผู้จัดการทั่วไปสายงานธุรกิจไวร์ไลน์ บริการบรอดแบนด์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้ตรงใจตามไลฟ์สไตล์ผู้ชื่นชอบเน็ตความเร็วสูง ทรู ออนไลน์ จะปรับเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตให้ลูกค้าที่ใช้แพกเกจ 8 เมก เพิ่มขึ้นเป็น 12 เมก โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม พร้อมทั้งจัดเตรียมคอนเทนต์สตรีมมิ่ง ที่เหมาะกับความเร็วดังกล่าว อาทิ ทรูวิชั่นส์ ให้ทดลองใช้เป็นเวลา 2 เดือน


'ถ้าลูกค้าได้ทดลองใช้และมั่นใจว่าความเร็วสูงดังกล่าว เป็นความเร็วมาตรฐานสำหรับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง สามารถสมัครใช้บริการได้เลย และถ้าลูกค้าทรูต้องการใช้ต่อ เพียงเปลี่ยนแพกเกจบรอดแบนด์ 12 เมกได้ในราคาเดือนละ 1,690 บาท นอกจากนี้ลูกค้าทรูไฮสปีดอินเทอร์เน็ตแบบ 3 เมก กลุ่มที่เป็นคอนเวอร์เจนซ์แพกเกจยังได้รับสิทธิ์เพิ่มความเร็วแบนด์วิธไปต่างประเทศเป็นเท่าตัวด้วย'

การเพิ่มความเร็วเป็น 12 เมกในครั้งนี้ ทางทรูได้ทำการปรับปรุงประสิทธิภาพชุมสายกว่า 7,000 โหนดทั่วกรุงเทพฯ ให้รองรับเอดีเอสแอล2+ ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 1,500 โหนด โดยในแผนปีนี้จะเพิ่มอีก 200 โหนด รวมเป็น 1,700 โหนด ใช้งบประมาณโหนดละ 1 ล้านบาท

'ทางเทคนิคเครือข่ายของทรูสามารถให้ความเร็วได้สูงสุดที่ 20 เมก แต่รัศมีในการให้บริการจะสั้นเพียง 1 กิโลเมตรจากชุมสาย จึงเลือกที่ความเร็ว 12 เมก เพราะให้บริการได้กว้างกว่าและเพียงพอกับการใช้งาน'

เพื่อไม่ให้เสียหน้า บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ ได้โดดลงมาเล่นสงครามความเร็วอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยเช่นกัน โดยได้ส่งแพกเกจที่เรียกว่า 'เน็ต ท็อป สปีด' ที่พัทยา เพื่อให้บริการบรอดแบนด์ที่ความเร็ว 8 เมก ในราคา 1,000 บาทต่อเดือน และความเร็ว 12 เมก ในราคา 1,500 บาทต่อเดือน ฟรี ค่าแรกเข้าพร้อมรับโมเด็มฟรีหรือแลกซื้อ Wireless Router Modem ในราคา 1,500 บาท

แคมเปญดังกล่าวสามารถใช้ Peer-to-Peer ทั้งภายในและต่างประเทศได้ในช่วงเวลา 00.01-06.00 น.โดยมีการจำกัดความเร็วในการดาวน์โหลดไว้ไม่เกิน 512K สำหรับอินเตอร์เนชั่นแนล แบนด์วิธ และไม่เกิน 1 เมกสำหรับโดเมสติกแบนด์วิธ โดยมีพื้นที่ให้บริการทั่วประเทศและระยะทางไม่เกิน 1 กิโลเมตร จากจุดให้บริการทีโอที

นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการที่ขอใช้บริการแคมเปญนี้ในเขตพื้นที่ศรีราชาและพัทยา จะได้รับบริการ ทีโอที ไว-ไฟฟรีวันละ 10 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 เดือน


'แคมเปญ เน็ต ท็อป สปีด มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าครัวเรือนที่เน้นการใช้งานประเภทดาวน์โหลด รับ-ส่งอีเมล ตั้งเป้าจนถึงสิ้นปีจะมียอดลูกค้าบรอดแบนด์ 1 ล้านราย' ธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานกรรมการ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าว

อีกทั้งทีโอทีมีแผนจะให้บริการบรอดแบนด์ เข้าไปยังกลุ่มหอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ โดยเริ่มนำร่องไปแล้วที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ รวมถึงการเข้าไปติดตั้งเครือข่ายไว-ไฟให้บริการตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ โดยได้รับความร่วมมือจาก วิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นกรรมการบอร์ดทีโอที ซึ่งจะให้ทีโอทีเข้าไปให้บริการอินเทอร์เน็ตร่วมกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และทีโอทียังมีแผนเข้าไปให้บริการกับหน่วยงานราชการ กระทรวงต่างๆ

นอกจากนี้ ทีโอทียังปรับเปลี่ยนทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้นด้วยการส่งพนักงานเข้าไปเสนอบริการให้ลูกค้าถึงหน้าบ้าน เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งที่มีการทุ่มงบประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เป็นจำนวนมาก

'ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียหน้าหรือเสียภาพลักษณ์ ขอเพียงให้ขายบริการบรอดแบนด์ทีโอทีได้ก็พอใจแล้ว'


ส่วนทาง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ถึงแม้จะไม่ได้โดดลงมาแข่งเรื่องความเร็วเหมือนผู้เล่นรายอื่น แต่ได้ปรับกลยุทธ์หาลูกค้าร่วมกับพันธมิตรอย่างเคเบิลทีวีตามต่างจังหวัด ภายใต้ชื่อบริการ 'เน็ตออนเคเบิลทีวี'

'เน็ตออนเคเบิลทีวีไปได้สวย แม้เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่ได้รับความนิยมอย่างในหาดใหญ่ จันทบุรี มีลูกค้า 2-3 พันรายแล้ว กำลังจะเปิดที่เชียงใหม่ พิษณุโลก ด้วย รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้หลังหักส่วนแบ่งกับเคเบิลทีวี ซึ่งมีตั้งแต่ 70-160 บาท กสทฯ จะได้รับราว 300 บาทต่อเดือน แต่กับบรอดแบนด์เพาเวอร์ไลน์กำลังหาสาเหตุว่าเป็นเพราะเทคโนโลยีหรือสภาพเศรษฐกิจทำให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นไม่มาก' สมพล จันทร์ประเสริฐ รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)

ในซีกของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ก็มีความเคลื่อนไหวในการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยเช่นกัน ล่าสุด ทางบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เพิ่งเปิดตัว 'เอสเอ็มเอส อินเทอร์เน็ต ซิม' ซึ่งเป็นซิมเวอร์ชั่นที่ 2 ที่ออกแบบมาสำหรับคนเล่นเน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานบริการเสริม เอสเอ็มเอสและดาต้า ด้วยราคาเพียงเดือนละ 149 บาท ส่งเอสเอ็มเอสได้ 200 ข้อความ ใช้จีพีอาร์เอส/เอดจ์ 20 ชั่วโมง ส่วนที่เกินจ่ายแค่ครึ่งจากปรกติ

ชัยยศ จิรบวรกุล ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มธุรกิจโพสต์เพด ดีแทค กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเราได้ทยอยเปิดตัวซีรีส์ต่างๆ ของซิมที่ 2 ออกมาเป็นระยะๆ เริ่มด้วย อินเทอร์เน็ต ซิมที่ให้ลูกค้ากลุ่มที่เน้นใช้บริการดาต้าได้ใช้บริการอย่างเต็มที่ในราคาสุดคุ้ม ตามมาด้วย เอสเอ็มเอส ซิมสำหรับลูกค้าที่ต้องการส่งข้อความเอสเอ็มเอสบ่อยๆ โดยไม่เน้นการโทร.ออก ซึ่งทั้งสองซิมได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีผู้ใช้งานร่วม 1 แสนราย

'ลูกค้าให้การตอบรับแนวคิดซิมที่สองอย่างน่าพอใจ อย่างไรก็ดีเราเล็งเห็นว่ายังมีลูกค้าโพสต์เพดอีกกลุ่มที่มีความต้องการใช้ทั้งบริการดาต้าและเอสเอ็มเอสไปพร้อมๆ กัน จึงเป็นที่มาของเอสเอ็มเอส อินเทอร์เน็ต ซิมที่ให้ลูกค้าใช้บริการดาต้าและเอสเอ็มเอสได้อย่างสบายใจ ส่วนค่าโทร.ทุกเครือข่ายนาทีละ 1.50 บาท โดยเชื่อว่าน่าจะฟิตกับ
ความต้องการใช้งานของลูกค้ากลุ่มนี้เป็นอย่างดี'


อติภัทร(แก๊ป)

ตามรอย เส้นทางเศรษฐี


คุณคงเป็นคนหนึ่งที่อยากมีเงินล้านในบัญชีธนาคารใช่มั้ย อยากมีบ้านพักตากอากาศ อยากไปเที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ หากคุณอยากให้ความปรารถนาเป็นจริง คุณก็ต้องเรียนรู้เส้นทางสู่ความร่ำรวยจากมหาเศรษฐีต่อไปนี้...

1. วิธีของ โจแอน เค. โรวลิ่ง (Joanne K. Rowling) เป็นที่รู้กันว่ามหาเศรษฐีโจแอนนั้น เป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์และมุ่ง มั่นขยันทำงาน โดยเฉพาะการเป็นนักเขียน ต้องมีความคิดที่ไม่ธรรมดา อย่างเช่น โจแอน เค. โรวลิ่ง นักเขียนแฮร์รี่ พอร์ตเตอร์ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพราะหนังสือของเธอได้รับการแปลหลายภาษา ทำเป็นภาพยนตร์ และมีแฟนนักอ่านมากมาย ทำให้เธอมีรายได้หลายพันล้านดอลลาร์

วิธีการ ต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีจินตนาการที่กว้างไกล และมีความมุ่งมั่นสุดๆ

ข้อดี คนยังมีความหวัง ว่าจะสามารถทำรายได้มากมาย จากผลงานที่สุจริตของตัวเอง

ข้อเสีย หากไม่มีความคิดสร้างสรรค์ก็คงประสบความสำเร็จได้ยาก นอกจากนี้ ยังเป็นวิธีที่ต้องทำงานอย่างหนักสม่ำเสมอ

2. วิธีของ เดียตมาร์ ฮอปป์ (Dietmar Hopp) ขึ้นชื่อว่าผู้มีจิตวิญญาณของการทำธุรกิจ เป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัทซอฟแวร์ SAP เขาทำรายได้มากกว่า 7 ล้านยูโร

วิธีการ คิดค้น พัฒนา และทำตลาด

ข้อดี คนมีความหวังที่จะทำเงินอย่างสุจริตมากขึ้น

ข้อเสีย ต้องมีความรู้ด้านเทคนิค และกว่าจะทำเงินได้เป็นล้าน ก็ต้องทำงานอย่างหนัก ประมาณ 80 ชม. ต่อสัปดาห์

3. วิธีของ Paul McCartney นักดนตรีอัจฉริยะ เขาเป็นอดีตมือกีต้าร์ของวงดนตรี The Beatle ที่ทำรายได้อย่างมากมาย ประมาณพันล้านดอลลาร์

วิธีการ มีความสามารถเป็นพิเศษ แต่ก็ต้องพร้อมที่จะจ่ายเงินให้คนอื่นด้วย

ข้อดี มีชื่อเสียงและหาเงินได้มาก ซึ่งทำให้มีความพึงพอใจ

ข้อเสีย เงินทองไหลมาเทมา เมื่อยังมีชื่อเสียงเท่านั้น ขาดความเป็นส่วนตัว เพราะต้องผจญกับปาปารัซซี่ แฟนๆ ที่รุมล้อม และอาจมีปัญหาการหย่าร้าง

4. วิธีของ Roman Abramowitsch ผู้ใช้เวลาในการทำเงิน นักหมุนเงินชาวรัสเซีย เขาซื้อส่วนแบ่งเครดิตจากธุรกิจของรัฐในปี 1991 และขายต่อจนทำเงินได้ถึง 23.5 พันล้านดอลลาร์

วิธีการ ต้องใช้โอกาสทางประวัติศาสตร์ ซึ่งจะมีให้เพียงครั้งเดียวและคนอื่นๆ ยังไม่รู้จัก

ข้อดี ไม่ต้องทำงานด้วยตนเอง

ข้อเสีย การหมุนเงินมีความเสี่ยง และการที่จะได้กำไรก็ต้องอาศัยดวงด้วยเหมือนกัน

5. วิธีของ Donald Trump เป็นที่รู้กันว่า เขาเป็นคนทำการตลาดให้ตัวเอง เป็นนักอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จมาก เขามีทรัพย์สินประมาณสามพันล้านดอลลาร์

วิธีการ มีไอเดียเป็นของตัวเองและมุ่งมั่น กล้าเสี่ยงกล้าลงทุน

ข้อดี เป็นที่ยอมรับนับถือ

ข้อเสีย ต้องทำชื่อเสียงให้คนรู้จักและเชื่อถือเพื่อให้คนสนใจ

6. วิธีของ Anna Nicole Smith ผู้รับมรดก เป็นที่รู้จักกันดีว่า แอนนา นิโคล สมิธ เป็นนางแบบเพลย์บอย ในวัย 26 ปีก็แต่งงานกับมหาเศรษฐีวัย 89 นามว่า J. Howard Marshall และหนึ่งปีให้หลัง ก็ได้รับมรดกของมหาเศรษฐีเฒ่า

วิธีการ หาผู้ชายรวยๆ สักคน

ข้อดี ไม่ต้องขยันมาก ไม่ต้องเป็นคนมีความสามารถหรือฉลาด

ข้อเสีย ถูกอิจฉาตาร้อน เป็นขี้ปากชาวบ้าน ถูกซุบซิบนินทา

ที่มา :
Lisa
พรรณราย (แมม)

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Flash Drive อาวุธของเซียน Ghost [-_-"]

การโกสต์ที่ใช้แผ่น CD ในการบู๊ทเข้าโปรแกรมนั้น เปรียบเสมือนอาวุธของเหล่าเซียนทุกท่าน แต่ทว่า .... สภาเซียน ก็ยังไม่ค่อยถูกอกถูกใจ กับวิธีการโกสต์ที่ต้องใช้แผ่นที่ใหญ่โตแบบนี้ เหล่าเซียนทั้งหลายจึงได้ปรึกษาหารือกัน เพื่อที่จะให้ได้วิธีการโกสต์ ที่ง่ายกว่าวิธีเดิม

ด้วยเหตุนี้ สภาเซียนได้ร่วมปรึกษาหารือกัน ณ. ห้องวิถีเซียน จนได้พบกับวิธีใหม่ ที่เอาไว้ใช้ปราบผีน้อยตนนี้ ... และนี่คือ วิถีแห่งเซียน ว่าด้วยวิชา Ghost to Flash Drive จากการโกสต์ที่ต้องบู๊ทด้วยแผ่น CD ซึ่งเป็นวิธีการเดิม ใช้เนื้อที่ในการเขียนแผ่นไม่มากนัก และไม่สะดวกต่อการพกพา ทำให้การโกสต์ได้รับการพัฒนา อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้สามารถบู๊ทได้ด้วยอุปกรณ์ ที่เรียกว่า Flash Drive การบู๊ทด้วย Flash Drive ให้ได้ผล ต้องมีเมนบอร์ดที่รองรับการบู๊ท ด้วยวิธีนี้ด้วย โดยดูจาก BIOS ในหัวข้อการตั้งค่าการบู๊ท ต้องมีคำว่า USB-HDD หรือ USB-Hard Disk หากเป็นเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ ก็หมดห่วงกับเรื่องนี้ได้เลยครับ วิธีการเซ็ทค่า ให้บู๊ทโกสต์ได้ด้วย Flash Drive สามารถดูได้ที่เว๊บไซด์ของ Hiren http://www.hiren.info/pages/bootcd-on-usb-disk

ในเว๊บไซด์ของ Hiren ได้ให้เครื่องมืออำนวยความสะดวก ในการทำมาให้เสร็จสรรพ พร้อมทั้งแสดงวิธีการทำต่างๆ แต่ก็ยังไม่สามารถใช้กับบางกรณีได้ เนื่องจากความเข้ากัน ไม่ได้ของอุปกรณ์ต่างค่าย ต่างยี่ห้อ ซึ่งปัญหานี้ Hiren ก็ให้เครื่องมือมาแก้ไขเหมือนกัน

ก่อนที่จะเริ่มทำการโกสต์ เราต้องหาเครื่องมือมาเตรียมพร้อมไว้ก่อน โดยเข้าไปที่เว๊บไซด์
ของ Hiren แล้วดาวน์โหลดไฟล์ usb_format.zip grub4dos.zip และ syslinux.zip
และที่ขาดไม่ได้ก็คือไฟล์ Hiren's BootCD 9.9 เมื่อได้ทุกอย่างครบแล้ว ก็คลายไฟล์กันเลยค่ะ


เมื่อดับเบิ้ลคลิกไฟล์ usb_format ช่อง Device ก็จะปรากฏชื่อและขนาดของ Flash Drive ขึ้นมา ช่อง File system ให้เลือกเป็น FAT32 ช่อง Volume label ให้ตั้งชื่อตามต้องการ เสร็จแล้วกดปุ่ม Start โปรแกรมจะทำการ Format Flash Drive ซึ่งเวลาที่ใช้ ขึ้นอยู่กับขนาดของ Flash Drive ด้วย ถ้าใช้ขนาด 8 GB ชงกาแฟดื่ม พร้อมทั้งอ่านหนังสือพิมพ์รอสักครึ่งชั่วโมงได้เลยค่ะ


จากนั้นให้เปิดโฟลเดอร์ grub4dos แล้วทำการ Copy ไฟล์ grldr และ menu.lst ไปวางไว้ใน Flash Drive


ต่อมาให้เปิดโฟลเดอร์ syslinux แล้วดับเบิ้ลคลิกไฟล์ RunMe
ก็จะปรากฏหน้าต่างดอสขึ้นมา ให้พิมพ์ไดร์ฟของ Flash Drive แล้วตามด้วยการกดปุ่ม Enter ครับ


โปรแกรมจะทำการ Copy ไฟล์ที่ต้องการไปวางไว้ในไดร์ฟของ Flash Drive


เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดโฟลเดอร์ files แล้ว Copy ไฟล์ syslinux ไปวางไว้ใน Flash Drive
เพียงเท่านี้ Flash Drive ที่เคยเอาไว้เก็บข้อมูลอย่างเดียว ก็สามารถบู๊ท เพื่อเรียกใช้งาน Ghost กันได้แล้ว


เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว บางท่านอาจเห็นไฟล์ต่างๆกระจายกันอยู่ จึงสร้างโฟลเดอร์ใหม่ขึ้นมา
เพื่อเก็บไฟล์ต่างๆเอาไว้ในโฟลเดอร์นี้ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งการทำแบบนี้
ต้องบอกว่า ทำไม่ได้เด็ดขาด เพราะจะไม่สามารถบู๊ทเข้าสู่โปรแกรมโกสต์ที่อยู่ใน Flash Drive ได้เลย

หากเห็นว่า Flash Drive มีเนื้อที่เหลือ สามารถสร้างโฟลเดอร์ใหม่ขึ้นมาเก็บไฟล์ต่างๆได้ครับ
ท่านใดต้องการไฟล์ PDF ดาวน์โหลดได้ที่นี่ค่ะ
http://www.4shared.com/file/127828319/75ba43fe/Ghost_to_Flash_Drive.html

แม้นว่าท่านจะรู้วิธีการหมดแล้ว ก็ไม่ควรละเลยการศึกษาหาความรู้นะค่ะ สวัสดีค่ะ.

ที่มา : http://www.learn-it.co.cc/

วิภารัตน์ (แหม่ม)

ตะลึง!!! Windows 7 ในจีน $6 เท่านั้น

จากครั้งที่แล้วผมได้กล่าวถึง Windows 7 เกี่ยวความสามารถในการเข้าใช้อินเตอร์เน็ตผ่านเว็บบราวส์เซอร์ไปแล้วนั้น วันนี้นั้นมีเรื่องที่น่าตกใจมากยิ่งกว่า เนื่องจากในความเป็นจริงนั้น Windows 7นั้นยังไม่มีการจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่เกิดอะไรขึ้นกับบทความดังกล่าวนี้ ลองไปอ่านดูกันนะครับ


ในขณะทีทั่วโลกกำลังรอคอย Windows 7 ที่มีกำหนดการเปิดตัว เพื่อวางจำหน่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วโลกในวันที่ 22 ตุลาคม ล่าสุดที่ประเทศจีน ซึ่งรอให้ถึงวันนั้นไม่ได้แล้ว ก็เลยออก Windows 7 เวอร์ชั่นเถื่อนออกมาให้ผู้ใช้ก่อนใคร และที่ร้ายยิ่งกว่าก็คือ ราคาของมันแค่ 6 เหรียญฯ (ประมาณ 220 บาท) เท่านั้น

ตอนแรกที่ได้เห็นข่าวนี้ก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไรที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึน โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งล่าสุด Windows 7 เวอร์ชั่น"เถื่อน"ได้เริ่มมีการจำหน่ายในท้องตลาด และร้านจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในกรุงปักกิ่งเรียบร้อยแล้ว โดยราคาในแพคเกจแผ่น DVD อยู่ที่ 6 เหรียญฯ เท่านั้น แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ มันไม่ได้ระบุชัดเจนว่า Windows 7 เวอร์ชันเถือนที่เห็นเป็นเอดิชั่นอะไรกันแน่?


อย่างไรก็ตาม จากรายงานข่าวแผ่น Windows 7 เถื่อนน่าจะมาจากเวอร์ชันที่เปิดให้ดาวน์โหลดก่อนหน้านี้ ซึ่งมันได้ถูก crack ให้สามารถอัพเดตได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เมื่อไมโครซอฟท์ทราบ product key ดังกล่าว แผ่นเถื่อนเหล่านี้ก็จะไม่ได้รับการอัพเดตต่อไป เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับวินโดวส์เวอร์ชันก่อนหน้านี้ สำหรับแผ่นปลอม Windows 7 ที่วางตลาดในจีนขณะนี้จะมีข้อมูลบนแผ่น 1.8GB เป็นไฟล์อิเมจนามสกุล .gho ทั้งนีั้แหล่งข่าวยังอ้างว่า มันน่าจะเป็นเวอร์ชันที่ได้รับการปรับแต่งแก้ไขให้ไปพร้อมกับโฆษณา หรือลิงค์โปรโมชั่นสินค้า ตลอดจนมัลแวร์ ซึ่งทางร้านค้าได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ได้วางจำหน่ายมาร่วมเดือนแล้ว ครั้นพอถามถึงยอดขาย คำตอบที่ได้ก็คือ เฉลี่ยวันละหลายสิบแผ่นอยู่เหมือนกัน



* นอกจากนี้ ยังมี Windows 7 Ultimate เวอร์ชันเถื่อนที่วางในฟิลิปปินส์ ที่มีราคาถูกกว่าอีก โดยแผ่นละ 1.44 เหรียญฯ หรือประมาณ 60 บาทเท่านั้น :( !!!!

นอกจากนี้ผู้เขียนบทความยังเคยผ่านไป ยังร้านขายซีดีเถื่อน ตามสถานที่ต่างๆ พบว่าในประเทศไทยของเรานั้น ได้มีการวางออกมาจัดจำหน่ายแล้วเหมือนกัน แต่ยังไม่ใช่เวอร์ชั่นที่สมบูรณ์ ถ้าเพื่อนๆคนไหนทราบข่าวเกี่ยวกับwindows7 ในไทยยังไง ก็คอมเม้นท์มาได้ ที่บล็อคนะครับ

แหล่งที่มา : http://www.arip.co.th/news.php?id=409713

วรุตม์ (เน)

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สนมวอนเฉพาะกิจ~~~ข่าวด่วน!!!..."โนเกียเผยโฉม"เน็ตบุ๊ก"ตัวแรกแล้ว"

สนมวอนมาแร้วววว คับ
เมื่อเช้านี้พี่คนนึงในอ๊อฟฟิช ถามว่า รู้หรือยัง ว่า โนเกีย ออก เน็ตบุ้คแล้ว?
หนมวอนก็งงเรยยย ไม่รุเรื่องเรยสักนิด
ก็เรยต้องพึ่ง อากู๋ (google) ให้ช่วยหาข่าวให้ เรยได้ข่าวนี้มาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน

โนเกียเผยโฉม"เน็ตบุ๊ก"ตัวแรกแล้ว

รายงานข่าวล่าสุด โนเกีย (Nokia) ได้ประกาศเปิดตัวเน็ตบุ๊กตัวแรกของทางบริษัทแล้ว หลังจากที่ผู้บริหารของบริษัทโนเกียเพิ่งจะพูดถึงผลิตภัณฑ์ใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะแนวโน้มของมือถือกับพีซีที่จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ว่าแต่สเป็กของมันจะน่าตื่นเต้นแค่ไหน คงต้องมาดูกัน

ในที่สุดโนเกียก็ก้าวเข้าสู่ตลาดพีซีอย่างเต็มตัว โดยได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็น Nokia Booklet 3G โมบายโน้ตบุ๊ก(เน็ตบุ๊ก)ที่มีน้ำหนักเบา เพื่อขยายพื้นที่ในการทำตลาดให้กับธุรกิจที่เดิมเป็นผู้ผลิตมือถือเพียงอย่างเดียว "การเติบโตของผู้บริโภคที่ต้องการพีซีที่มาพร้อมกับคุณสมบัติโมบายสมบูรณ์แบบ ซึ่งภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงผู้ใช้เข้าด้วยกัน โดยใช้ความเป็นผู้นำทางด้านโมบาย ดังนั้น Nokia Booklet 3G จึงเป็นวิวัฒนาการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างลงตัว" Kai Oistamo รองประธานบริหารฝ่ายอุปกรณ์ กล่าว


Nokia Booklet 3G มาพร้อมกับตัวถังอะลูมิเนียม โดยมีน้ำหนักรวม 2.75 ปอนด์ (ประมาณ 1.25 กิโลกรัม) หนาเพียง 0.78 นิ้ว บางกว่า iPhone 3GS 2 ตัววางซ้อนกัน เน็ตบุ๊กของโนเกียทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows และใช้โพรเซสเซอร์ Intel Atom สามารถทำงานได้ต่อเนื่องนาน 12 ชั่วโมง อีกทั้งยังเชื่อมต่อไร้สายกับมือถือโนเกียได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น 3G/HSPA และ Wi-Fi



Nokia Booklet 3G ยังมาพร้อมกับพอร์ต HDMI สำหรับให้เอาท์พุตวิดีโอไฮเดฟฯ และกล้องด้านหน้าที่สามารถถ่ายวิดีโอได้ พร้อมด้วยระบบเสียงสมบูรณ์แบบ สามารถเชื่อมต่อไร้สายด้วยบลูทูธ และช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำ SD ขนาดของหน้าจอเน็ตบุ๊กประมาณ 10 นิ้ว และมีระบบ A-GPS ที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Ovi Maps อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับ Nokia Music Store ได้อีกด้วย





แม้สเป็กเครื่องจะใช้ Intel Atom และมีหน้าจอ 10 นิ้ว แต่โนเกียอยากให้ผู้บริโภคเรียกมันว่า โน้ตบุ๊ก ซึ่งจะว่าไปแล้ว มันอาจจะทำให้ผู้ใช้สับสน และเกิดความเข้าใจผิดคิดว่า มันเป็นโน้ตบุ๊กที่สมบูรณ์แบบ ทั้งๆ ที่สเป็กของมันเป็นเน็ตบุ๊กอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยในเรื่องของราคาออกมา โดยทางบริษัทมีแผนที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมในงาน Nokia World วันที่ 2 กันยายน ศกนี้



Update: รายงานข่าวล่าสุด ในขณะที่สื่อส่วนใหญ่มองว่า การเข้าสู่ตลาดเน็ตบุ๊กครั้งนี้ของโนเกียอาจจะช้าเกินไป แต่นักวิเคราะห์กลับมองเห็นอีกมุมหนึ่ง เนื่องจากโนเกียไม่ได้ฟันธงลงไปว่า จะบุกตลาดนี้อย่างเต็มที่ เพราะคงต้องรอดูทิศทางที่ชัดเจนในวันที่ 2 กันยายน แต่การออก Booklet 3G ซึ่งวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เป็นมินิแลปทอป (ไม่ได้มองว่าเป็นเน็ตบุ๊ก) ก็เนื่องจากโนเกียกำลังจะใช้สายสัมพันธ์อันดีกับโอเปอเรเตอร์มือถือรายใหญ่ทั่วโลก ในการผลักดันผลิตภัณฑ์นอกเหนือจากสมาร์ทโฟนให้กับผู้ริโภคของเครือข่ายเหล่านี้นั่นเอง ซึ่งก็ต้องมาดูกันต่อไปว่า โนเกียจะทำสำเร็จ หรือไม่?


ที่มา : http://www.arip.co.th/news.php?id=409806



GooD_kNIGHT ServicE Co.,Ltd.
sanom_WON : Mr.Pattthaworn Rodpila
Address : Room 407 85/258 Serithai 9soi.(Rodanan I) Serithai Rd.Buengkum BKK 10240
Tel : 0874252176
02:58 pm 08262009

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อ่านหนังสืออย่างไรให้เข้าหัว


ตอนนี้มีใครกำลังอ่านหนังสือกันอยู่ แต่รู้สึกว่าไม่มีสมาธิเอาซะเลยบ้างหรือเปล่า หรือว่าอ่านแล้วทำไมรู้สึกวอกแวก ประมาณว่าหนังสืออยู่ตรงหน้า แต่เนื้อหาไม่เข้าหัว ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้มีวิธีง่ายๆในการสร้างสมาธิขณะอ่านหนังสือมาฝากค่ะ

- ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการอ่านหนังสือ ควรจะเป็นช่วงที่ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า บรรยากาศรอบตัวก็สดใส ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไปค่ะ แต่งตัวสบายๆ ไม่อึดอัด และไม่ควรฝืนอ่านหนังสือขณะที่กำลังเครียดหรืออารมณ์ไม่ดีนะคะ เพราะจะเป็นช่วงที่ไม่มีสมาธิและทำให้อ่านไม่รู้เรื่อง ทำให้ไม่เกิดประโยชน์จากการอ่านอย่างเต็มที่ ดังนั้น ช่วงเวลาที่ควรอ่านหนังสือควรเป็นช่วงที่ร่างกายและจิตใจของน้องๆผ่อนคลาย หรืออ่านในวันหยุดสบายๆ ที่ไม่ได้มีนัดหรือรีบไปที่ไหนค่ะ

เด็กดีดอทคอม :: อ่านหนังสืออย่างไร ให้เข้าหัว; tags: เก้าอี้, เด็กดี, วิธี, สมาธิ, อ่าน, เคล็ดลับอ่านหนังสืออย่างไร ให้เข้าหัว

- อย่าอ่านเมื่อรู้สึกหิว (กินให้อิ่มก่อนดีกว่านะ) เพราะจะทำให้ไม่มีสมาธิ (ท้องก็ร้อง) แถมยังไม่มีพลังงานให้สมอง และไม่ควรอ่านหนังสือหลังรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆ เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานในการย่อยอาหาร ถ้าเกิดไปอ่านหนังสือตอนนั้น เลือดจะขึ้นไปเลี้ยงสมองมาก จนทำให้กระเพาะย่อยอาหารได้ไม่ดี อาจท้องอืดท้องเฟ้อได้นะคะ!!

เด็กดีดอทคอม :: อ่านหนังสืออย่างไร ให้เข้าหัว; tags: เก้าอี้, เด็กดี, วิธี, สมาธิ, อ่าน, เคล็ดลับอ่านหนังสืออย่างไร ให้เข้าหัว

- ท่านั่งที่ถูกต้องสำหรับการอ่าน คือ นั่งหลังตรงและไม่เกร็งเกินไป ควรเลือกเก้าอี้ที่มีพนักพิงและเท้าแขนที่พอเหมาะกับร่างกาย เก้าอี้ที่นุ่มเกินไปหรือแข็งเกินไปจะทำให้นั่งไม่สะดวก และทำให้อ่านไม่ได้นาน

- ควรถือหนังสือให้ห่างจากดวงตาไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร (ประมาณ 1 ไม้บรรทัด)และไม่ควรนอนอ่านหนังสือนะคะ เพราะนอกจากจะทำให้เมื่อยแขนมากกว่าปกติแล้ว สายตายังต้องปรับระดับมากอีกด้วย สายตาจะเสียเอานะคะ

ที่มา>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

http://www.dek-d.com

OOTime AloneOO
กนกวรรณ (นิว)

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แนะนำเว็บไซต์สำหรับการทำโปรเจค

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนจ้า วันนี้เราขอนำเสนอเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับการค้นหาโปรเจค

เราคิดว่าเว็บไซต์นี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนหลายๆคนที่ต้องการหาโปรเจคที่เกี่ยวข้องกับโปรเจคที่กำลังทำอยู่ หรือสำหรับคนที่กำลังมองหาหัวข้อที่จะทำโปรเจค (แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนรู้จักแล้ว ก็โทษทีน่า แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักก็ลองเข้าไปหาข้อมูลในนี้ดู ขอแนะนำ)

เว็บไซต์นี้ชื่อว่า
http://tdc.thailis.or.th/tdc/

เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการสืบค้นฐานข้อมูลเอกสารฉบับเต็ม ซึ่งเป็นเอกสารฉบับเต็มของวิทยานิพนธ์และรายงานการวิจัย ซึ่งรวบรวมจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ

อย่างเพื่อนๆคนไหนที่เข้าไปสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์นี้แล้วสนใจอยากจะดาวน์โหลดมาอ่านก็สามารถดาวน์โหลดได้ แต่ต้องสมัครสมาชิกก่อนน่า ซึ่งการดาวน์โหลดนั้นทางเว็บไซต์เค้าจะกำหนดให้ดาวน์โหลดได้ไม่เกิน 5 ชื่อเรื่องต่อวันน่ะจ๊ะ

ตัวอย่างเช่น ค้นหาเกี่ยวกับ "ร้านขายยา" ขอแนะนำว่าให้เข้าไปที่ Basic Search พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา คลิกเลือกทุกเขตข้อมูล และคลิกเลือกส่วนใดส่วนหนึ่ง เพราะถ้าไม่คลิกเลือกในส่วนนี้มันจะค้นหาให้แบบอัตโนมัติจากเขตข้อมูค คือ ชื่อเรื่อง และ ขึ้นต้นด้วย แล้วเราก็จะไม่เจอสิ่งที่เราต้องการ (เอิ่กๆไม่รู้ว่าคนอื่นเค้าจะเป็นเหมือนเรารึป่าวที่รีบจัด ไม่ได้ดูอะไรให้ดีก่อน มันก็เลยค้นไม่เจอ อิอิ)

เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนกับการทำโปรเจคจ้า

ที่มา : เว็บไซต์
http://tdc.thailis.or.th/tdc/

ปวีณา (ปุ๋ย)

Download : กำจัดส่วนเกินให้โน้ตบุ๊กของคุณแบบปลอดภัย


ด้วยกระแสความแรงทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพและราคาค่าตัว ทำให้หลายคนเริ่มมองหาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมาเป็นเพื่อนคู่กายในการทำงานกันเพิ่มมากขึ้น ดังจะเห็นจากยอดจำหน่ายโน้ตบุ๊กในแต่ละปีตามงานซื้อขายคอมพิวเตอร์ใหญ่ๆ ที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว สวนทางกับเรื่องของราคาที่ถูกลงอย่างต่อเนื่อง จนเดี๋ยวนี้เราก็ได้เห็นโน้ตบุ๊กที่มีประสิทธิภาพดี (เทียบเท่ากับรุ่นท็อปๆ เมื่อซัก 3 ปีก่อน) มีราคาไม่ถึง 20,000 บาท ไปเรียบร้อย
แถมในงาน (โละ) คอมพิวเตอร์เครื่องเก่า เอามาแลกโน้ตบุ๊กใหม่ปีนี้ ก็มีท่าว่ากระแสโน้ตบุ๊กราคาถูกจะเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อคุณเพิ่งไปถอยโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่มาจากร้าน ซึ่งส่วนใหญ่ถ้ามีราคาเกิน 30,000 บาท ก็มักจะได้รับการติดตั้งระบบปฏิบัติการลิขสิทธิ์อาทิเช่น Windows Vista Home Premium หรือหากเป็นเครื่องถูกกว่านั้น ก็อาจจะถูกติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows XP Pro (แต่เป็นของเถื่อน) มาให้แทน (แทนการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Linux ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยถนัด)
ทีนี้เมื่อมีการติดตั้งไม่ว่าจะเป็น Windows รุ่นไหน ส่วนใหญ่แล้ว ก็มักจะได้รับของแถมติดไม้ติดมือมาด้วย เช่น Google Toolbar, Yahoo Toolbar และอื่นๆ ซึ่งบางทีผู้ใช้ก็ไม่เคยได้ใช้ หรือผู้ใช้บางคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร ใช้อย่างไร มีประโยชน์อย่างไรต่อโน้ตบุ๊กของพวกเขาบ้าง (ไอ้เรื่องประโยชน์นี่ ถ้าได้ใช้ถือว่าคุ้ม แต่ถ้าไม่ได้ใช้แล้ว มันก็คือตัวถ่วง หน่วงระบบดีๆ นี่เอง) ดังนั้นวันนี้ TechXcite จึงมีซอฟต์แวร์ชั้นดี ที่จะมาช่วยกำจัดซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์เหล่านั้นให้หมดไปจากเครื่องของคุณ นั่นก็คือโปรแกรม PC Decrapifier สุดยอดโปรแกรมกำจัดส่วนเกินโน้ตบุ๊กที่จะช่วยให้โน้ตบุ๊กของคุณไม่ต้องแบกรับภาระหนักๆ จากโปรแกรมไม่พึงประสงค์อีกต่อไป


พร้อมแล้วก็ไปลบกันเลย!
1. ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ติดตั้งที่ดาวโหลดมา
2. คลิกปุ่ม Check for Update เพื่อค้นหาเวอร์ชันล่าสุด (เวอร์ชันล่าสุดคือ 1.9.1)
3. จากนั้นคลิกปุ่ม Next
4. อ่านข้อตกลงเรื่องการใช้ซอฟต์แวร์ซะหน่อย แต่ถ้าไม่ก็คลิกปุ่ม Next ได้เลย
5. ในหน้าจอนี้จะเตือนว่า การตรวจสอบมีความเสี่ยง ระหว่างซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์กับซอฟต์แวร์ที่ได้รับการติดตั้งอย่างสมบูรณ์ ซึ่งคุณใช้งานอยู่ ดังนั้นควรพิจารณาให้ดีหลังจากหน้าจอนี้
6. หากพร้อมแล้วก็คลิกปุ่ม Next ต่อไปได้เลย
7. หน้าจอนี้โปรแกรมจะถามว่าเครื่องที่คุณใช้เป็นเครื่องใหม่หรือไม่
8. ถ้าใช้ก็ให้คลิกเลือก Yes
9. จากนั้นก็คลิกปุ่ม Next
10. โปรแกรมจะถามว่าคุณต้องการสร้างจุด Restore Point เพื่อใช้ย้อนกลับในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดหรือไม่ ให้คลิกปุ่ม Create Restore Point
11. เมื่อสร้างจุด Restore Point เสร็จแล้ว ก็คลิกปุ่ม OK ได้เลย
12. จากนั้นโปรแกรมจะแสดงรายชื่อของซอฟต์แวร์ที่ (คาดว่า) เป็นซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ให้คุณทราบ และเลือกพิจารณาว่าต้องการถอดถอนการติดตั้งหรือไม่ (ให้คุณเลือกได้ตามต้องการ) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นซอฟต์แวร์ส่วนเกินจริงๆ ทั้งหมด (แนะนำให้เลือกทุกตัว)
13. คลิกปุ่ม Next เมื่อเลือกเสร็จแล้ว
14. โปรแกรมจะย้ำอีกครั้งถึงความเสี่ยงในการลบซอฟต์แวร์ส่วนเกิน ซึ่งเมื่อแน่ใจแล้ว ก็ให้คลิกปุ่ม Next ได้เลยทันที
15. เมื่อกระบวนการกำจัดส่วนเกินเสร็จสิ้น จะมีหน้าต่างนี้แสดงขึ้นมา ให้คลิกปุ่ม Next ได้เลย
16. โปรแกรมจะถามว่ายังมีซอฟต์แวร์ตัวอื่น ที่คุณต้องการลบเพิ่มเติมจากการค้นหาของตัวโปรแกรมอีกหรือไม่ ให้คุณเลือกโปรแกรมที่ต้องการลบเพิ่มเติมแล้วคลิกปุ่ม Skip ได้เลย (ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเลือกลบเพิ่มก็ได้)
17. เสร็จสิ้นกระบวนการกำจัดส่วนเกิน


แหล่งที่มาจร้า..
http://technology.impaqmsn.com/article.asp?rid=&art=&id=7163&page=0


วันนิดา(ต๊อบ)

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เครือข่าย Wi-Fi อันตรายหากไม่ป้องกัน [ตอนที่ 1]


ปัจจุบัน เทคโนโลยีเครือข่าย LAN ไร้สายมาตรฐาน IEEE 802.11 (หรือที่นิยมเรียกกันโดย ทั่วไป ว่าเครือข่าย Wi-Fi) กำลังได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ในการนำมาติดตั้งตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่า จะเป็นตามสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยสำนักงาน ศูนย์ประชุม สนามบิน ห้องสมุด ห้างสรรพสินค้า ร้านกาแฟ และตามบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งาน สามารถเข้าถึงเครือข่ายและ อินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวกทั่วบริเวณที่ให้บริการ โดยไม่ต้องใช้สาย นำสัญญาณ ให้ยุ่งยากระเกะระกะ นอกจากนี้ความนิยมใน การนำเอาเทคโนโลยีเครือข่าย Wi-Fi มาใช้งานจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากอุปกรณ์ เครือข่าย Wi-Fi มีราคาถูกลงและคอมพิวเตอร์รุ่น ใหม่ๆ มักจะมีอุปกรณ์เครือข่าย Wi-Fi ติดตั้งมาจาก โรงงานหรือ built-in มาด้วย ยิ่งไปกว่านั้นใน อนาคตอันใกล้อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือต่างๆ ก็จะมีความสามารถใน การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ผ่านเครือข่าย Wi-Fiได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ท่านทราบหรือไม่ว่าในความสะดวกสบายของการ ใช้งานเครือข่าย ไร้สาย Wi-Fi นั้นมีภัยอันตรายที่น่ากลัวแฝงอยู่ด้วย หากระบบไม่ได้รับการ ติดตั้งให้มีความมั่นคงปลอดภัยทางเทคนิค กล่าวคือข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์ บทสนทนา ข้อความจากเว็บ หรือ username/password ที่สื่อสารผ่านเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัยนั้น สามารถถูกโจรกรรมได้โดยง่าย อีกทั้งผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถลักลอบบุกรุกเข้ามาใช้เครือข่าย ไร้สายเหล่านั้น เป็นฐานในการโจมตี หรือแพร่กระจายไวรัสคอมพิวเตอร์สู่ระบบเครือข่ายอื่นๆ ได้ข่าวร้ายก็คือเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ที่ได้รับการติดตั้ง และใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ทั้งใน ประเทศและต่างประเทศจำนวนมากไม่มีความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นเพราะผู้ใช้งานและ ผู้ติดตั้งดูแลระบบขาดความรู้ความเข้าใจและ ความตระหนักถึงภัยอันตรายต่างๆ จากเทคโนโลยี เครือข่ายไร้สาย Wi-Fi จึงขาดการป้องกันภัยอย่างเหมาะสม ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจ ถึงภัยอันตรายต่างๆ จากการใช้งานเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi รวมถึงการเสริมสร้างความปลอดภัย ให้กับเครือข่ายไร้สายภายใต้เงื่อน ไขอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่มีใช้ในปัจจุบัน

  • ภัยอันตรายจากการใช้งานเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi

โดยทั่วไปแล้วระบบเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากกว่าระบบเครือข่าย LAN แบบทั่วไปที่ใช้สายนำสัญญาณ เนื่องจากสัญญาณข้อมูลของระบบเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi จะแพร่กระจายอยู่ในอากาศและไม่จำกัดขอบเขตอยู่เพียงแต่ในห้องๆ เดียวหรือบริเวณแคบๆ เท่านั้น แต่สัญญาณอาจจะแพร่ไปถึงบริเวณซึ่งอยู่นอกเขตความดูแลของท่านได้ ซึ่งหากระบบ เครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ไม่มีกลไกรักษาความปลอดภัยทางเทคนิคที่แข็งแรงเพียงพอ อาจจะทำให้ ผู้โจมตีสามารถโจรกรรมข้อมูลหรือกระทำการโจมตีระบบในรูปแบบต่างๆ ได้โดยไม่ต้องปรากฏ ตัวให้เห็น(Invisible Attackers) ยิ่งไปกว่านั้นผู้โจมตี อาจใช้อุปกรณ์เสาอากาศพิเศษที่ทำให้ สามารถรับส่งสัญญาณจากบริเวณภายนอก ที่ไกลออกไปได้มากทำให้การสืบค้นหรือแกะรอย ผู้กระทำความผิดเป็นไปได้ยาก ระบบเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัยหรือมีความปลอดภัยต่ำ จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตีและภัยอันตรายในรูปต่างๆ อาทิ การดักฟังสัญญาณ การลักลอบ เข้ามาใช้เครือข่ายไร้สายโดยไม่ได้รับอนุญาต การลักพาผู้ใช้งาน (User Hijacking) และการ รบกวนเครือข่ายหรือทำให้เครือข่ายตกอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถให้บริการได้ตาม ปกติ

  • การลักลอบเข้ามาใช้งานเครือข่ายโดยไม่รับอนุญาต (Unauthorized Access)

เทคโนโลยี WEPเป็นกลไกทางเลือกเดียวที่กำหนดไว้ตามมาตรฐาน IEEE 802.11 ในช่วง ยุคแรกๆ (ก่อนปี 2546) สำหรับการเข้ารหัสสัญญาณและการตรวจสอบพิสูจน์ตัวตน ผู้ใช้งาน ของอุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย Wi-Fi เทคโนโลยี WEP อาศัยการเข้ารหัสสัญญาณแบบ shared และ symmetric กล่าวคือ อุปกรณ์ของผู้ใช้งานทั้งหมดบนเครือข่ายไร้สายหนึ่งๆ ต้องทราบ รหัสลับที่ใช้ร่วมกันเพื่อทำเข้ารหัสและถอดรหัสสัญญาณได้ ปัจจุบันเทคโนโลยี WEP ล้าสมัยไปแล้วเนื่องจากมีช่องโหว่และจุดอ่อนอยู่มาก โดยช่องโหว่ที่เป็นปัญหาที่สุดคือ การที่ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถคำนวณหาค่ารหัสลับด้วยหลักทางสถิติได้จากการ ดักฟัง และเก็บ รวบรวมสัญญาณจากเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi หนึ่งๆ ได้เป็นปริมาณมากเพียงพอ โดยอาศัย โปรแกรม AirSnort ซึ่งเป็น Freeware ดังนั้นในปัจจุบันผู้ติดตั้ง และผู้ใช้งานควรหลีกเลี่ยง การใช้กลไก WEP และเลือกใช้เทคนิคทางเลือกอื่นที่มีความปลอดภัยสูงกว่า เช่น WPA (Wi-Fi Protected Access) และ IEEE 802.11i

-โจมตีระบบแพร่กระจายไวรัส หนอนคอมพิวเตอร์ โค้ดอันตรายต่างๆ หรือ spam บนระบบเครือข่ายไร้สายนอกจากนี้ผู้บุกรุกอาจใช้เครือข่ายไร้สายเป็น backdoor ในการเข้าถึงและโจมตีหรือแพร่กระจาย Malware สู่ระบบเครือข่ายภายในองค์กรใน ส่วนอื่นๆ

-ลักลอบใช้เครือข่ายไร้สายเป็นฐานเพื่อโจมตี แพร่กระจายไวรัส หนอนคอมพิวเตอร์ โค้ดอันตราย หรือ Spam ไปสู่ระบบเครือข่ายอื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต โดยทำให้ผู้ที่ ถูกโจมตีเข้าใจว่า การโจมตีเกิด มาจากเครือข่ายที่ถูกลักลอบใช้เป็นฐาน นอกจาก นี้เพื่อความแนบเนียน ผู้โจมตีสามารถปลอม MAC Address (ซึ่งเป็น ID ของอุปกรณ์ ของผู้โจมตี) ให้ตรงกับ MAC Address ของผู้ใช้งานคนใดคนหนึ่งบนระบบได

  • การลักพาผู้ใช้งาน (User Hijacking) และการโจมตีแบบ Man-in-the-Middle

ภัย อีกประการหนึ่งสำหรับเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัย คือ การที่ผู้ใช้งานเครือข่าย ไร้สายสามารถถูกลักพาไปเข้าสู่ระบบของบุคคลภายนอก ที่ไม่ประสงค์ดี ทำให้เกิดความ ไม่ปลอดภัยของข้อมูลของผู้ใช้งานที่รับส่งผ่านระบบเครือข่ายดังกล่าว โดยปกติผู้ใช้งาน เครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัย มักจะไม่มีการตรวจสอบพิสูจน์ตัวตน อุปกรณ์แม่ข่าย ให้แน่ชัดก่อนทำการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์นั้นๆ ผู้ใช้งานเพียงแต่ตรวจสอบ ความถูกต้อง ของชื่อเครือข่ายหรือที่เรียกว่า SSID (Service Set Identifier) ซึ่งผู้บุกรุกสามารถตั้งชื่อ SSID ของอุปกรณ์แม่ข่ายของผู้บุกรุกให้ตรงกับชื่อเครือข่ายที่ต้องการจะบุกรุกได้ เมื่อผู้ใช้งาน เชื่อมต่อกับเครือข่ายผ่านระบบของ ผู้บุกรุกจะทำให้ผู้บุกรุกสามารถทำการโจมตีแบบคน กลางเปลี่ยนแปลงสาร (Man-in-the-Middle) ได้ อาทิ การดัดแปลงหรือเพิ่มเติมข้อมูล ระหว่างการรับส่งและการดักฟังข้อมูล ซึ่งการโจมตีแบบ Man-in-the-Middle นอกจากจะทำ ให้ผู้บุกรุกสามารถโจรกรรมข้อมูลที่ไม่ได้ รับการเข้ารหัสในระดับแอปพลิเคชัน (เช่นเดียวกับการดัก ฟังแบบ passive sniffing) ยังสามารถอำนวยการให้ผู้บุกรุก ทำการ โจรกรรมข้อมูลที่ได้รับการเข้ารหัสในระดับแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น โพรโตคอล https ได้ด้วย นอกจากนี้ การที่ผู้ใช้งานถูกลักพาสามารถทำให้ผู้บุกรุกเข้าถึงข้อมูล ต่างๆ บนเครื่อง คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานผ่านช่องโหว่ต่างๆของระบบผู้ใช้งานได

  • การรบกวนเครือข่าย ( Jamming or Denial of Service Attacks)

การรบกวนเครือข่าย (Jamming or Denial of Service Attacks) เป็นปัญหาที่สำคัญอีกปัญหา หนึ่ง สำหรับเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ซึ่งยากที่จะป้องกันได้ เนื่องจากเป็นธรรมชาติของการสื่อสารแบบไร้สายด้วย คลื่นวิทยุที่สามารถเกิดการขัดข้อง เมื่อมีสัญญาณรบกวน อุปมาเหมือนกับการสื่อสารด้วยเสียง เมื่อมีการส่งเสียงแทรกซ้อน กันจากหลายแหล่งเกิดขึ้นการสื่อสารก็เป็นไปได้ ยาก สำหรับเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ก็เช่นกัน เมื่อมีสัญญาณ รบกวนจากแหล่งอื่นที่ใช้ความถี่คลื่นวิทยุในย่านเดียวกัน การ ทำงานของเครือข่ายไร้สาย อาจขัดข้อง หรือไม่สามารถทำการรับส่งข้อมูลได้เลย นอกจาก นี้แล้ว การสืบหาแหล่งต้นกำเนิดของสัญญาณรบกวนนั้นทำได้ไม่ง่าย ส่วนมากต้องอาศัย การเดินสำรวจสัญญาณด้วยเครื่องมือสำหรับวัดกำลังสัญญาณคลื่นวิทยุ (Spectrum Analyzer) และ หรือเครื่องมือสำหรับตรวจสอบสัญญาณเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi เช่น AiroPeek และ AirMagnet สัญญาณรบกวนอาจเกิดมาจาก อุปกรณ์สื่อสารหรืออุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย Wi-Fi อื่นๆ ที่ถูกใช้งานอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งมีการรับส่งสัญญาณด้วยคลื่นความถี่ย่านเดียว กับอุปกรณ์ Wi-Fi ในระบบของท่าน ส่วนใหญ่แล้วอุปกรณ์ Wi-Fi ที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วไป มีการรับส่งสัญญาณด้วยคลื่นวิทยุในย่านความถี่ 2.4 GHz หรือที่มีชื่อเรียกว่าย่านความถี่ ISM (Industrial Scientific Medical) ซึ่งเป็นย่านความถี่สาธารณะสากลที่ประชาชนทั่วไป มีสิทธินำมาใช้งานในอาคารหรือสำนักงานได ้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้งานคลื่นวิทยุในย่านความถี่นี้ได้แก่ เครื่องไมโครเวฟ โทรศัพท์แบบไร้สาย อุปกรณ์ Bluetooth และอุปกรณ์ Wi-Fi อุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์บางอย่าง เป็นต้น นอกจากนี้แล้วสัญญาณ รบกวน อาจเกิดมาจาก การกระทำของผู้โจมตีหรือผู้ใดผู้หนึ่งโดยจงใจ ผู้โจมตีอาจนำอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ความถี่ เดียวกับ เครือข่ายไร้สาย Wi-Fi หรืออุปกรณ์มาตรฐาน IEEE 802.11 ที่ถูกดัดแปลงให้ ส่งสัญญาณออกมารบกวนมา ติดตั้งและกระจายสัญญาณในบริเวณใกล้เคียง เพื่อรบกวน หรือทำให้เครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ตกอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถให้บริการได้ (Denial-of-Service)

อ้างอิง : วารสาร Nectec โดย ดร. ศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม

ที่มา : http://www.itubon.com/

สิทธิลักษณ์(ฟีล์ม)



ผล ตัดสินรางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมนานาชาติ หรือรางวัล "IDEA" ประจำปี พ.ศ.2552 ได้ฤกษ์ประกาศรายชื่อผู้ชนะสาขาต่างๆ ออกมาแล้ว

รางวัลนี้สนับสนุนโดยนิตยสารธุรกิจชั้นนำ "บิสสิเนสวีก" และสมาคมนักออกแบบอุตสาหกรรมแห่งสหรัฐอเมริกา (IDSA) มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและมอบรางวัลเพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคล กลุ่มบุคคล รวมถึงองค์กรที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมการออกแบบใหม่ๆ ซึ่งสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของประชากรทั่วโลก


สำหรับผู้ชนะที่น่าสนใจและมีความโดดเด่นในสาขาต่างๆ ประจำปี 2552 บางส่วนประกอบด้วยผลงานดังต่อไปนี้

1.คู่มือทำอาหารดิจิตอล (Teaser)

ผู้ออกแบบ : สก๊อตชิม มหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอ และคาลวิน เฉิน มหาวิทยาลัยเพอร์ดู สหรัฐอเมริกา ที เซอร์ (Teaser) เป็นต้นแบบคู่มือปรุงอาหารยุคดิจิตอลที่นอกจากจะบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับสูตร อาหารต่างๆ เอาไว้ในหน่วยความจำแล้วก็ยังมีระบบ "ผลิตรสชาติ" ของเมนูที่ต้องการปรุงออกมาได้ด้วย!

ภายในตัวเครื่องติดตั้ง "ตลับเก็บรสชาติ" เอาไว้ 18 ตัวอย่าง สามารถสั่งให้เครื่องนำมาผสมกัน พร้อมกับจัดพิมพ์ลงบนกระดาษตัวอย่างเพื่อให้ลองชิมดูว่าถูกใจหรือไม่ ถ้าถูกลิ้นก็ลงมือปรุงจริงๆ ได้เลย แต่ถ้าไม่โดนใจก็ประยุกต์สูตรได้ตามสะดวก

2.เครื่องสร้างอักษรเบรล (Haptic Reader)

ผู้ออกแบบ : เดวิด ลี และยูนา คิม มหาวิทยาลัยฮันดองโกลบอล และฮันซุก ลี มหาวิทยาลัยไคเมียง เกาหลีใต้ Haptic Reader ทำหน้าที่เป็นเครื่องสแกนตัวอักษรบนหน้าหนังสือ จากนั้นประมวลผลออกมาเป็นตัวอักษรเบรล ช่วยให้ผู้พิการทางสายตามีโอกาสเข้าถึงคลังความรู้ในโลกหนังสือมากขึ้น

วิธีการใช้งาน นำตัวเครื่องวางทับหน้าหนังสือที่ต้องการ เมื่อระบบสแกนเสร็จแล้ว พื้นผิวหน้าจอส่วนบน จะมีปุ่มนูนขึ้นมาแปรสภาพเป็นอักขระเบรล

นอกจากนั้น ยังมีระบบแปลงตัวอักษรที่สแกนเข้ามาเป็น "คำพูด" อีกด้วย

3.โน้ตบุ๊กเจาะกลุ่มผู้หญิง (Shell Laptop Concept)

ผู้ออกแบบ : จอช มารัสกา และแทน ทูลิส สหรัฐอเมริกา ต้นแบบโน้ตบุ๊ก รุ่น "Shell Laptop" พัฒนาโดยทีมงานของบริษัทไมโครซอฟท์ ยักษ์ใหญ่ธุรกิจโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบอร์ 1 ของโลก แนวคิดหลักต้องการทลายกรอบการออกแบบ โน้ตบุ๊กเดิมๆ

มุ่งจับลูกค้ากลุ่ม "ผู้หญิง" ยุคใหม่ อายุระหว่าง 23-28 ปี นำวัสดุที่ดูแล้วมีความนุ่มนวล น่าสัมผัส เช่น ไม้และเซรามิกมาผสานเข้ากับลวดลายเรืองแสง มองแล้วน่าดึงดูดใจให้ใช้งาน

4.คอนแท็กต์เลนส์กันแดด (Contact Shades)

ผู้ออกแบบ : จิน ยองอุน, จุน เกียวลี, ยัง โฮลี สังกัดกลุ่มโคเรีย ดีไซน์ เมมเบอร์ชิพ ประเทศเกาหลีใต้

"แว่นตากันแดด" มีมาตั้งหลายปี ล่าสุด กลุ่มนักออกแบบแดนโสมจึงคิดค้น "คอนแท็กต์เลนส์" ที่มีคุณสมบัติกันแดดและรังสีอัลตราไวโอเลตขึ้นมาบ้าง

คอนแท็กต์เลนส์กันแดดที่ว่านี้มี 4 รุ่นด้วยกัน เหมาะกับสภาพอากาศ 4 ลักษณะ และมุ่งจับลูกค้ากลุ่มที่ชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง

5.แผนที่หลากมุมมอง (Panamap)

ผู้ออกแบบ : เอียน ไวต์ บริษัท เออร์บัน แม็ปปิ้ง อิงก์ สหรัฐอเมริกา

แผนที่ มาตรฐานทั่วไปทุกวันนี้ถูกระบบบอกพิกัดผ่านดาวเทียม (จีพีเอส) รวมถึงโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนชนิดมีแผนที่ในตัวแย่งหน้าที่ไปเยอะ จนใกล้กลายเป็นของตกยุค

แต่บ.เออร์บัน แม็ปปิ้ง ยังคงศรัทธาในแผนที่ เพียงแต่นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการสร้างแผนที่ไฮเทค รุ่น "Panamap" (พานาแม็ป) เมื่อกางและขยับเปลี่ยนมุมมองแผนที่แต่ละครั้ง จะมองเห็นข้อมูลอื่นปรากฏขึ้นมาสลับกันไป อาทิ ถนนหนทาง เส้นทางเดินรถระบบขนส่งมวลชน และแนะนำย่านสำคัญๆ ในแต่ละเมือง

6.เลนจักรยานส่วนตัว (Light Lane)

ผู้ออกแบบ : เอวาน แกนต์ จากสมาคมนักออกแบบอุตสาหกรรมแห่งอเมริกา และอเล็กซ์ ที จากบริษัท อัลติจูด อิงก์ สหรัฐอเมริกา

กระแส รณรงค์ให้คนในสังคมเมืองหันมาขี่จักรยานเพื่อช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมคนละ ไม้คนละมือไม่ค่อยได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร หนึ่งในสาเหตุหลักเพราะไม่มีการสร้าง "เลนจักรยาน" เอาไว้ให้ประชาชนขี่จักรยานด้วยความปลอดภัย

เมื่อหวังพึ่งทางการ ไม่ค่อยได้ คู่หูเอวาน กับอเล็กซ์ จึงออกแบบ "ไฟส่องเลนจักรยาน" ขนาดพกพาสำหรับติดท้ายจักรยาน คอยทำหน้าที่ยิงลำแสงเลเซอร์ออกไปเป็นรูป "เลนจักรยาน" เพื่อขอทางปั่นจักรยานและเตือนให้รถยนต์ที่ขับตามมาข้างหลังได้มองเห็นชัดๆ โดยเฉพาะยามค่ำคืน

7.โคมไฟรีไซเคิล (The Energy Seed)

ผู้ออกแบบ : ปาร์ก ซังวู มหาวิทยาลัยกุ๊กมิน และคิม ซุนฮี มหาวิทยาลัยชุนอา เกาหลีใต้

เป้าหมายการประดิษฐ์โคมไฟรูปร่างเลียนแบบ "ดอกไม้" แสนสวยงามชิ้นนี้ เพื่อกระตุ้นให้มนุษย์ตระหนักถึงพิษภัยของการทิ้ง "ขยะพิษอิเล็กทรอนิกส์" ไม่เป็นที่เป็นทาง เช่น ถ่านและแบตเตอรี่ ซึ่งนับวันยิ่งส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมอย่างรุนแรง

การใช้งานโคมไฟ "Energy Seed" ต้องทิ้งถ่านหรือแบตเตอรี่เก่าลงไปในช่องที่จัดเตรียมไว้ให้ ขั้นต่อไประบบจะ "รีด" พลังงานที่ยังพอตกค้างอยู่ในแบตเตอรี่ออกมาใช้จนหมดเกลี้ยง

เมื่อทิ้งแบตเตอรี่เก่าๆ ลงไปมากเท่าไหร่ หลอดไฟแอลอีดีในดอกไม้จะสว่างจ้ามากขึ้นเท่านั้น เหมือนเราค่อยๆ ปลูกประคบประหงมเมล็ดพันธุ์พืชจนเติบใหญ่

8."เมาส์"สุดจ๊าบ (Arc Notebook Mouse)

ผู้ออกแบบ : นักออกแบบผลิตภัณฑ์ไอทีประจำบริษัทวัน แอนด์ โค, ไมโครซอฟท์ และแคดเบส โซลูชั่น สหรัฐอเมริกา

ใครเห็นรูปโฉมเมาส์คอมพิวเตอร์ "Arc Notebook Mouse" รุ่นนี้ของบริษัทไมโครซอฟท์คงต้องยอมรับว่าจ๊าบจริงๆ ได้รับการออกแบบให้ใช้กับโน้ตบุ๊กโดยเฉพาะ รูปทรงโค้งมน หยิบจับใช้งานคล่องตัว

มีขนาดเล็กกว่าเมาส์ทั่วไปของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะราวกึ่งหนึ่ง แต่สามารถกางออกมาให้กลายเป็นเมาส์ขนาดใหญ่ได้ด้วย

9.ชุดตรวจเชื้อเอดส์ที่บ้าน (Project Masiluleke Home HIV Test Kit)

ผู้ออกแบบ : บริษัท ฟร็อกดีไซน์ สหรัฐอเมริกา ชุดตรวจผลเชื้อเอชไอวี/เอดส์ในภาพนี้ แจกจ่ายฟรีอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในโครงการลดการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ในพื้นที่ชนบทห่าง ไกลของแอฟริกาใต้

เมื่อรับชุดดังกล่าวไปแล้ว นำไปตรวจหาเชื้อเอชไอวีได้ด้วยตนเอง โดยใช้ "น้ำลาย" เป็นตัวตรวจหาเชื้อ ภายในกล่องเขียนคำอธิบายวิธีใช้งาน ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่นของคนแอฟริกัน

10.เครื่องบินสะเทินน้ำสะเทินบก (ICON A5)

ผู้ออกแบบ : นักวิจัยสังกัดบริษัท ไอคอน แอร์คราฟต์, กลุ่มนิสสัน ดีไซน์ อเมริกา, บริษัท ทรอย ลี ดีไซน์ และวิทยาลัยศิลปะการออกแบบ สหรัฐอเมริกา

เครื่องบินส่วนบุคคลหน้าตาล้ำยุคและดุดันเอาเรื่อง รุ่น "ICON A5" ใช้เล่นได้ทั้งบนอากาศและเหนือผิวน้ำ ปีกพับเก็บได้ ช่วยให้การเคลื่อนย้ายตัวเครื่องไปยังสถานที่ต่างๆ ทำได้โดยง่าย

พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนที่รักในกีฬาขับเครื่องบินเล็ก ซึ่งมีใบอนุญาตการบินถูกต้องตามกฎหมาย


ที่มา mthai.com

ณัฐพล(ท๊อป)

Tips การรักษาแบตเตอรี่ใน Notebook

แบตเตอรี่ใน Notebook มีอายุใช้งานนานเท่าไหร่

โดยทั่วไปมักจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1-2 ปี ทั้งนี้ขึ้นกับการดูแล รักษา และเคล็ดลับในการใช้งานของแต่ละคน ส่วนหลักการที่เป็นไปได้ ที่จะทำให้ Battery ใน Notebook อยู่กับเราไปนานๆ เรามีคำตอบมาฝากบอกต่อๆ กัน

วิธียืดอายุให้ Battery ของ Notebook

1. หลีกเลี่ยงการใช้งานในห้องที่มีอุณหภมิสูงเกินไป

2. การ Charge ทุกครั้ง ควร Charge ให้เต็มด้วยเสมอ

3. ถ้าไม่ใช้ Notebook นานๆ ควร charge battery ให้เต็มและถอดเก็บไว้

4. ปิดการใช้งาน BlueTooth รวมทั้ง Wirreless ด้วยถ้าไม่ได้ใช้งาน

5. อย่าปล่อยให้ไฟหมดเกลี้ยงในตัว battery เพราะจะทำให้ charge และไฟเข้ายากกว่าปกติ

6. ใช้ Battery กันบ้าง คนส่วนใหญ่มักจะต่อสาย Power เข้ากับปลั๊กทันทีที่มีโอกาส ทำให้ไม่ค่อยได้ใช้ battery กันอย่างจริงๆ จังๆ ดังนั้น แนะนำให้ใช้ไฟจาก battery บ้าง อย่างน้อย เดือนละ 1 ครั้ง การใช้ก็ควรใช้ให้หมดจนกระทั่งขึ้นสัญญาณให้ charge

7. ถอด battery ออก ต่อสายตรง ซึ่งข้อนี้ ไม่ได้แนะนำน่ะครับ แต่เห็นเพื่อนบางคน ประหยัดสุดๆ กลัว Battery ใช้ได้ไม่ถึง 5 ปี (ปกติก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว ฮิๆ) ถ้าจะถอดจริงๆ ก็เปลี่ยนไปใช้คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะเลยดีกว่า

ที่มา : http://www.it.co.th/tipsdetail.php?t_id=110
พงศธร(พง)

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สนมวอนรีพอร์ต~~~"สรุปผลการโหวตอย่างไม่เป็นทางการ"

สรุปผลการโหวตอย่างไม่เป็นทางการ

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด 17 ท่าน จากจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 28 ท่าน รวมกับอาจารย์จงดี โตอิ้ม รวมเป็นทั้งสิ้น 29ท่านและมีผู้แจ้งความประสงค์ขอ ถอนการลงทะเบียนวิชานี้ 2 ท่าน รวมเป็นทั้งสิ้น 27 ท่าน คิดเป็นร้อยละ 62.96



วันที่ท่านต้องการสอบปลายภาค


3 ตุลาคม 2552 จำนวน 9ท่าน คิดเป็น ร้อยละ 52.94

10 ตุลาคม 2552 จำนวน 8 ท่าน คิดเป็น ร้อยละ 47.06




ช่วงเวลาที่ท่านต้องการไปดูศึกษาดูงานนอกสถานที่
วันจันทร์ - ศุกร์ (อยู่ในช่วงเดือนกันยายน) จำนวน 15 ท่าน คิดเป็น ร้อยละ 83.33*

วันเสาร์ (อยู่ในช่วงเดือนตุลาคม หลังปิดคอร์ส) จำนวน 3 ท่าน คิดเป็น ร้อยละ 16.67*


* ผู้ใช้สามารถเลือกช่องทำเครื่องหมายมากกว่าหนึ่งช่อง ดังนั้นอาจรวมกันได้เกินร้อยละ 100

ความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริการของ "GooD_kNIGHT ServicE" by sanom_WON


ดีม้าก...มาก (Excellent) จำนวน 7 ท่าน คิดเป็นร้อยละ 41.18
ดีจังเรยยย (Good) จำนวน 6 ท่าน คิดเป็นร้อยละ 35.29
ก้อดี (Fair) จำนวน 2ท่าน คิดเป็นร้อยละ 11.76
ไม่งามเรย (Bad) จำนวน 1 ท่าน คิดเป็นร้อยละ 5.88
ทำไปทำไมข๊ะ? (Worst) จำนวน 1 ท่าน คิดเป็นร้อยละ 5.88


สนมวอนจะยืนยันวันที่ต่าง ๆ ตามผลโหวต ให้กับอาจารย์จงดี ในวันที่ 21 สิงหาคม 2552
หากมีท่านใดไม่สะดวกหรือมีปัญหาใด ๆ ที่จำเป็นหรือสำคัญ กรุณาติดต่อ สนมวอน จากช่องทางต่าง ๆ
ในการติดต่อที่ลงไว้ทางด้านล่างของบทความนี้

ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ใช้บริการของสนมวอนครับ


สนมวอน

GooD_kNIGHT ServicE Co.,Ltd.
sanom_WON : Mr.Pattthaworn Rodpila
Address : Room 407 85/258 Serithai 9soi.(Rodanan I) Serithai Rd.Buengkum BKK 10240
Tel : 0874252176
04:24 pm 08202009