กาก
>> อ่อนหัด ไร้ประโยชน์ หรือ ไม่ได้เรื่อง มีต้นกำเนิดของคำมาจากขยะ เศษกาก หรืออะไรที่ไม่มีประโยชน์แล้ว
กิ๊ก
>> คำนี้คุ้นหูได้ยินบ่อยๆ เป็นคำสุภาพของคำว่า "ชู้" หมายถึงเพื่อนต่างเพศที่มีความสำคัญมากกว่าเพื่อนทั่วไป คือมากกว่าเพื่อนแต่ยังไม่ถึงขั้นคนรัก มีความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืน ขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้งสองฝ่าย และไม่สามารถออกหน้าออกตาได้เต็มที่เท่าแฟนหรือคู่สมรส
เกรียน
>> เริ่มมาจากวงการเกมออนไลน์ ที่ผู้เล่นส่วนมากจะเป็นเด็กชายวัยหัวเกรียน และบางคนจะมีพฤติกรรมที่แปลกๆ คือขี้อวด เบ่ง โอ่ว่าตนเองเก่ง หรือกวนประสาททำให้คนอื่นวุ่นวาย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของคำว่า "เกรียน" ใช้เรียกคนที่มีพฤติกรรมหรือลักษณะดังกล่าว
กรู
>> ดัดแปลงมาจาก "กู" แต่เนื่องจากเป็นคำไม่สุภาพทางระบบคัดกรองคำในอินเทอร์เน็ต จึงไม่อนุญาตให้แสดงคำนี้ แต่วัยรุ่นหัวใสเลยดัดแปลงคำใส่พยัญชนะ "ร" เข้าไปเป็นคำควบกล้ำ แต่ยังคงน้ำเสียงคล้ายของเดิมอยู่
ขำขำ
>> พี่น้องฝาแฝดของคำว่า "จิ๊บจิ๊บ" หมายถึง การกระทำที่ไม่จริงจัง เรื่องเล็กน้อย อย่าซีเรียส ชิวๆ ทำแบบสบายๆ กันเอง ไม่มีอะไรน่าเครียด น่ากังวล เช่น {สอบตกเป็นเรื่องขำๆ เดี๋ยวลงเรียนใหม่ปีหน้าก็ได้}
แจ่ม
>> หมายถึงความรู้สึกพอใจในลักษณะของสิ่งที่ได้เห็นจนเป็นคำอุทาน เช่น {โอ้โห สาวๆมหาลัยนี้แจ่มๆ กันทั้งนั้นเลย} หรือ {ไปเที่ยววัดบนภูเขามา วิวแจ่มมากๆ} บางคนใช้คำว่า "แหร่ม" แทนก็มี
ช่างกล้า
>> มักใช้เรียกชาย หญิง กะเทย เกย์ ทอม ดี้ ฯลฯ ที่แสดงความกล้าท้าแดดเกินความคิดของคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นความกล้าสดงออกที่ถูกหรือผิดกาลเทศะก็ตาม
ชิซูกะ (คำญี่ปุ่น)
>> หมายถึง ตะกละ อาจเกิดจากการที่ไม่กล้าด่ากันตรงๆ จึงพยายามหาคำพ้องเสียงแบบอ้อมๆ เช่น {แหม...เธอนี่ชิซูกะจริงๆ กินไม่เผื่อคนอื่นบ้างเลยนะ} ซึ่ง "ชิซูกะ" ที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงเพื่อนของโนบิตะแต่อย่างใด
ชิวชิว
>> แปลว่าสบายๆ ง่ายๆ ธรรมดาๆ บรรยากาศเป็นกันเอง เช่น ตอนเย็นบรรยากาศร้านอาหารริมน้ำดีมาก หนุ่มสาวต่างมานั่งทานข้าวชิวชิวกันหลายคู่
ซกมก
>> คำศัพท์นี้เก่าแล้วแต่ยังฮิตอยู่ แปลว่าสกปรกและซอมซ่อ เช่น คนนี้ซกมกไม่ชอบอาบน้ำมีขี้เหงื่อขี้ไคลติดตัวน่ารังเกียจ
เซ็งเป็ด
>> หมายถึงอาการเซ็งเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ตรง กับที่คิดไว้ เช่น อยากไปเที่ยวแต่ฝนตกก็อาจบ่นว่า"เซ็งเป็ด" กัน
ซุงแหล
>> คำนี้เป็นกิริยาช่อง 3 ของคำว่า "ตอแหล" เข้าใจว่าเป็นอาการตอแหลขั้นร้ายแรง จึงต้องขยายจาก ตอไม้เป็นขอนไม้ ขอนไม้ขยายเป็นทอนซุง จนกลายเป็น "ซุงแหล"
เด็กแว๊น
>> หมายถึง กลุ่มเด็กวัยรุ่นชายหญิงที่มีรสนิยมขับขี่มอเตอร์ไซค์เสียงดัง ซิ่งบนถนนรบกวนชาวบ้านไปวันๆ ซึ่งคำว่า "แว๊น" สันนิษฐานว่ามาจากเสียงท่อไอเสียเวลาเร่งเครื่อง ที่จะดัง แว้น แว้นนนนน นั้นและค่ะ
เด็กสก็อยต์
>> หมายถึง เด็กสาวตุ๊กตาซ้อนท้ายรถเด็กแว๊น บางท่านสันนิษฐาน รากศัพท์คำว่าสก็อยต์มาจากคำว่า กระโปรงลายสก็อตที่เด็กๆ เหล่านี้ชอบใส่บวก กับคำว่า ไก่หลง สก็อตบวกไก่ ก็กลายเป็น "สก็อยต์" นั่นละคะ
เด้ง
>> หมายถึงคนที่แต่งตัวแต่งหน้าโดดเด่นงามเริดกว่าปกติ เสมือนเป็นอะไรที่เด้งดึ๋งโผล่ขึ้นมาโดดเด่นท่ามกลางประชาชี
นอย (noid)
>> คำนี้มาจากรากศัพท์เดิมของคำว่า พารานอยต์ (paranoid) เด็กไทยกระซับให้สั้นเหลือเพียง นอย (noid) หมายถึงคนที่ชอบวิตกกังวลมากเกินเหตุ เช่น {แฟนจะไปเรียนต่อเมืองนอกก็เลย "นอย" แฟน เพราะกลัวว่าแฟนจะไปมีกิ๊กเป็นฝรั่งผมทอง}
เนียน
>> หมายถึงพฤติกรรมที่แนบเนียน หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ฉวยจังหวะช่วงชุลมุนเพื่อกระทำการบางอย่างให้สำเร็จ เช่น {เห็นแฟนสาวกำลังทำอาหารอยู่ ชายหนุ่มก็ทำเนียนเข้ามาชวนคุยด้วย และแอบหยิบกินไก่ทอดไปด้วยซะหลายชิ้นเชียว}
ปาดหน้าเค้ก
>> เป็นคำเรียกเวลาที่เพื่อนของเราแย่งโอกาสไปจากมือของเราเสียเอง โดยมากก็ใช้เวลาคนที่เราหมายปองอยู่ถูกเพื่อนทำเนียนแย่งไปจีบเสียเอง บางคนจะใช้คำว่า "เพื่อนเรา เผาเรือน" หรือ "เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" ก็เป็นได้ในความหมายโดนแย่งของที่หมายปอง
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด
>> เป็นศัพท์ของคำอุทานที่เด็กไทยช่างคิด มักใช้อุทานอะไรที่เหนือความคาดหมายมากๆ ถึงมากที่สุด โดยมากผู้ใช้ศัพท์นี้มักเป็นชายเต็มตัว แต่เป็นตุ๊ดเต็มใจ บางท่านไม่ชอบของทอดอาจเปลี่ยนเป็นพระเจ้าช่วยกล้วยปิ้งได้ตามรสนิยมนะยะ
เฟค (fake)
>> คำฝรั่ง แปลตรงความหมายว่า แกล้งพูด หรือ แกล้งทำให้เข้าใจเป็นอย่างอื่น ไม่จริงใจ สร้างภาพ หลอกลวง กลบเกลื่อน มักใช้เรียกคนที่มีพฤติกรรมปากอย่างใจอย่าง สร้างภาพ
มะ
>> คำกลายพันธุ์มาจากคำว่า "ไม่" แต่บางคนอยากแอ๊บเด็ก ให้น่ารักดูกุ๊กกิ๊ก แบบว่า.. มะอาว =ไม่เอา, มะรุ =ไม่รู้, มะเถิก = ไม่ถูก, มะจ้อบ = ไม่ชอบ [ฟังๆไปก็เหมือนต่างด้าวเลยนะเนี้ย]
วอทแซ่บ (คำฝรั่ง)
>> มาจากคำว่า What's up แปลว่า เกิดอะไรขึ้น, มีอะไรขึ้น แต่วันรุ่นไทยลิ้นไก่สั้น จึงแปลงเป็นคำว่า"วอทแซ่บ" ในที่สุด
ร้าก
>> กิริยาช่อง 2 ของคำว่า "รัก" ที่อยากจะบอกความรู้สึกส่วนลึกกับใครสักคนที่มันมากเกินกว่าคำว่า "รัก" มาอธิบาย เลยเพิ่มเสียงให้ยาวขึ้นจนกลายเป็น ร้ากกกกกกก นั้นไง
ไรว้า
>> ไรว้า...! แล้วไรว้า เป็นคำอุทานแบบเซ็งๆ เมื่อพบกับสิ่งที่น่าผิดหวัง มักพบพูดคำนี้ในหมู่ผู้ชาย เวลานัดบอดกับสาวๆ และพบว่าสาวเจ้าหน้าตาไม่เห็นเหมือนรูปที่เคยส่งให้เลย ก็เลย ไรว้า......!!!
สะตอ
>> ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงผักชนิดหนึ่งของทางภาคใต้เรา แต่เป็นคำย่อที่มาจาก "สตรอเบอรี่" ที่ใช้เปรียบเปรยถึงคนที่มีลักษระตอแหล ปลิ้นปล้อน ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง ต่อมาวัยรุ่นเลยประยุกต์ใช้ให้คำดูนุ่มนวลลง เป็นคำพ้องเสียงว่าสตรอเบอรร์รี่แทน "ตอแหล" และต่อมาก็เรียกสั้นๆ ว่าสะตอในที่สุด
สลิ่ม
>> ใช้เรียกบุคคลที่ใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันตัดกันมาก เช่น เขียวกับชมพู [ประมาณว่า .. คลายขนมสลิ่มทับทิมกรอบ] บางคนอาจใช้แทนคำว่า... เสร่อ (สะ-เหร่อ) [ก็มี ทำให้ดูน่าฟังขึ้นนะ... น้องสลิ่ม]
สุดยิด
>> คำนี้อาจได้ยินบ่อยในหมู่ช่างภาพ หมายถึงสุดยอดไปเลย หรือเป็นที่สุดของที่สุด บางคนอาจนิยมใช้คำว่า "สุดตรีน" แทน
อะเฟรด (afraid)
>> คำนี้อาจจางหายจากหูกันไปบ้างแล้ว มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษคำว่า afraid ที่แปลว่า กลัว ใช้ตำหนิหรือด่าคนหรือสิ่งของที่ดูสกปรก ซกมก ไม่น่าเข้าใกล้
แอ๊บแบ๊ว
>> ใช้เรียกบุคคลที่แสร้งแสดงอาการแอบทำตัวเด็ก ทั้งๆที่อายุตัวเองเกินวัยนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย การพูดจา การแสดงออก พบมากในหญิงสาววัยใกล้ขึ้นคาน
โอ
>> คำย่อมาจากคำฝรั่งว่า "โอเค" ที่ย่อมาจาก All correct และเพี้ยนเป็นคำย่อ O.K. แต่เด็กไทยเราตัวดันอย่ให้สั้นกว่าเดิมเหลือเพียงแค่ "โอ" ซึ่งอาจจะตีความได้หลายระดับของเด็กไทย กับคำว่าโอ ตั้งแต่โอเค โอเลย โอมั่กๆ โอที่ซู้ดดด....
credir: http://blog.fukduk.tv
credir: http://blog.fukduk.tv
เมพขิงๆ
ตอบลบเมพขิงๆๆ นี่แรกๆๆก็งง ถึงกะต้องหาใน Google ทีเดียว ว่ามีที่มาจากอะไร
ตอบลบฮ่าๆๆ
คำพวกนี้ใช้มากๆจะติด มีปัญหาเป็นอย่างมาก เวลาต้องเขียนภาษาเป็นทางการ
นัฐญา(นัท)
จิบิๆ
ตอบลบสนมวอน (เวอร์ชั่น นิว ฟอแมท)
บางคำนี่ คิดกันได้ไง คนคิดนี่เก่งจิงๆเลย
ตอบลบพงศธร(พง)
ช่ายยเห็นด้วยกะนัทนะ
ตอบลบว่าคำพวกนี้ ใช้บ่อยๆ แล้วอาจติดได้
เวลาต้องเขียนที่เป็นทางการ
นิติรัตน์ (นิ)
แล้วสุโค่ยอะ.....
ตอบลบณัฐพล(ท๊อป)
อ่านแล้วก็ฮาๆ แก้เครียดดี
ตอบลบเหมาะกับช่วงเวลาที่งานท่วมหัวในช่วงนี้
อย่างแรงงง
พรรณราย (แมม)