วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

กำลังใจดีๆ จากผู้ชายที่มีแต่ตัว

นิค วูจิซิค (Nick Vujicic) ชายผู้มีกำลังใจแข็งแกร่งดุจเพชร เขาลืมตาดูโลกเมื่อ 4 ธันวาคม 2525(1982) ในครอบครัวที่มีพ่อแม่เป็นชาวเซอร์เบียและเฝ้าอุทิศตนให้ศริสต์ศาสนา นิค เกิดมาก็ไม่มีแขนทั้งสองข้าง เขามีเพียงขาสั้นๆข้างซ้ายข้างเดียวที่มีนิ้วเท้าเล็กๆสองนิ้วเท่านั้น...


เป็นความโศกเศร้าการุณของผู้เป็นพ่อและแม่ที่ลูกชายคนแรกเกิดมาไม่มีแขน และขา ไม่มีใครในเวลานั้นอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับนิค วูจิซิคได้แม้แต่พระเจ้าในขณะที่หลังจากนั้นนิคมีทั้งน้องชายและน้องสาวที่ มีอวัยวะครบสมบูรณ์ ทุกๆคนในโบสถ์ต่างเศร้าใจกับการเกิดมาของนิค และพ่อของเขาก็คิดว่านิคเองจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนักในสภาพแบบนี้

แต่ผลทดสอบเมื่อครั้งยังเป็นทารกกลับบอกว่านิดเป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงและสิ่งที่ขาดไปก็มีเพียงแค่แขนขาเท่านั้นเอง

นิคไม่เคยเอาแต่หมกมุ่นสงสารตัวเองที่ต้องเกิดมาเป็นแบบนี้ อีกทั้งไม่เคยโกรธเกี้ยวไปยังคนรอบข้างด้วยเหตุผลของความไม่ยุติธรรมของโชค ชะตา ตรงกันข้ามเขากลับบอกพ่อแม่และใครๆว่าเขงเองต้องการมีชีวิตที่ปกติ อยากทำอะไรๆเองและไม่ต้องการให้ใครมาดูแลหรือปฏิบัติดังว่าเขาพิเศษอย่างไร

ในวัยเด็กนิคต้องการไปโรงเรียนอย่างเช่นเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกัน แต่กฏหมายในประเทศขณะนั้นไม่อนุญาตให้เขาได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีที่สุด ได้เนื่องจากสภาพความบกพร่องของร่างกาย ทว่าแม่ของนิคก็ได้ยืดหยัดต่อสู้กับกฏหมายจนกระทั่งมันเปลี่ยนไป นิคกลายเป็นหนึ่งในนักเรียนพิการรุ่นแรกที่ได้เข้ารับการศึกษาในโรงเรียน ระดับแนวหน้า

แน่นอนว่าสิ่งที่เขาต้องพบเจอในโรงเรียนตลอดเวลาก็คือสายตานับร้อยนับพัน คู่ที่เฝ้ามองเขาอย่างแปลกแยก บ่อยครั้งที่นิคท้อแท้และไม่อยากไปโรงเรียน แต่กำลังใจทีดีเลิศจากพ่อแม่ก็ได้ช่วยหล่อเลี้ยงนิคและฉุดรั้งเขาขึ้นมาจาก ตรงนั้น ไมนานนักเด็กร่วมโรงเรียนของนิคก็เริ่มยอมรับในตัวเขา และเส้นแบ่งของความแปลกแยกจากความพิการของนิคก็ค่อยๆจางลงและหายไปในที่สุด

นิค วูจิซิค เรียนจบทางบัญชี และกำลังจะอายุครบ 27 ในปลายปีนี้ ปัจจุบันเป็นนักสร้างแรงบันดาลใจที่เดินทางรอบโลกเพื่อพูดกับเด็ก-วัยรุ่น ที่มีความคับข้องใจ ไม่พอใจ นับว่าเป็นตัวอย่างที่มีชีวิตแสดงให้เห็นว่าปัญหาที่แต่ละคนมีนั้นแม้จะยิ่ง ใหญ่ขนาดไหนก็ต้องลุกขึ้นมาใช้ชีวิตต่อไปให้ได้...และ...จะทุกข์ร้อนอะไร นักหนา...."No arms, No legs, No worries" <<>

via : http://men.mthai.com

credit : blog.fukduk.tv

6 ความคิดเห็น:

  1. ผมรู้จักเค้าครับ เค้าคือคนที่สุดยอด
    มากๆครับ บางทีพระจ้าย่อมสร้างสิ่ง
    ที่จะมาทดแทน บางสิ่งที่ขาดหายไป
    เสมอ

    วรุตม์ (เน)

    ตอบลบ
  2. โอ้ว เคยดู คลิปใน youtube ไปแร้ว
    ซึ้งมากก ทำให้เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง
    ยามเรามีปัญหา เราท้อ เราเหนื่อย เราไม่พยายาม

    แต่เค้าคนนี้ทำทุกอย่างแม้จะไม่มีแขนไม่มีขา
    เค้าก็สามารถใช้ชีวิตยืนหยัดอยู่บนโลกได้อย่างภาคภูมิ

    และยังทำให้คนปกติอย่างพวกเรา สะท้อนก้มมองตัวเอง
    ว่าปัญหาของพวกคุณจิงๆนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ไขไม่ได้
    หากแต่คุณไม่เริ่มที่จะพยายามลุกขึ้นสู้ฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้น....เท่านั้นเอง

    สุภาวดี(ฝ้าย)

    ตอบลบ
  3. อืม เปนบทความและคลิปที่โดนใจมากเลย
    ให้กำลังใจในการดำเนินชีวิตเลย
    "เมื่อเราล้มลง เราต้องลุกขึ้นมาให้ได้แม้ว่าจะต้องพยายามสักกี่ครั้งก้ตาม
    ถ้าเราพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันจะไม่ใช่จุดจบ"
    ขอบคุณมากเลยครับ คุณนิค วูจิซิค (Nick Vujicic)

    พงศธร(พง)

    ตอบลบ
  4. หลายๆครั้ง ที่เราท้อแท้ และหมดหวัง ไม่มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป

    เราก็จะมาหากำลังใจจากบุคคลเหล่านี้

    ก็ทำให้เรานึกได้ว่า นี่ปัญหาเรามันเล็กน้อย

    ปัญหาเขานี่ใหญ่หลวง เขาก็สู้กับมันมาแล้ว

    ฉะนั้น ก็ขอยกย่องบุคคลเหล่านี้ที่เป็นแบบอย่างที่ดี

    ที่ทำให้คนบนโลกนี้อีกหลายคน "ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา"

    เกรียงไกร(อาท) ^_^

    ตอบลบ
  5. นับถือในกำลังใจของเค้ามากๆเลย

    เคยอ่านเมล์ เค้าทำทุกอย่างได้เหมือนคนที่ปกติ

    หรืออาจจะเรียกว่าทำได้มากกว่าและดีกว่าด้วยซ้ำ

    จะขอจำเอาไว้เตือนใจและเป็นกำลังใจให้กับตัวเองบ้าง

    พรรณราย (แมม)

    ตอบลบ
  6. อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้นนะ

    ขนาดเขาเกิดมาร่างกายไม่ครบ

    เขายังพยายามทำทุกอย่าง และใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นทั่วไปให้ได้

    ยามเราท้อแล้วหมดหวัง ดูเขาเป็นตัวอย่างคงมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น

    นิติรัตน์(นิ)

    ตอบลบ