วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สามล้อถูกหวย ฉบับจีนแดง

เขาจบเพียงชั้นมัธยมปลาย สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ แถมเป็นแค่พ่อค้าหาบเร่ และหารำไพ่ตอนกลางคืนด้วยการถีบสามล้อ แต่วันดีคืนดีเขาได้รับเชิญให้เรียนปริญญาเอก โดยไม่ต้องสอบเข้า

หนุ่มวัย ๓๘ ผู้นี้ชื่อ ไคเว่ย ทั้ง ๆ ที่มีอาชีพต่ำต้อย แต่เขามีความรู้ทางวรรณกรรมจีนโบราณอย่างลึกซึ้ง ชนิดที่หาตัวจับได้ยาก แม้กระทั่งศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยก็ยังทึ่ง เพราะบางเรื่องเขารู้ดีกว่าศาสตราจารย์อีก จนศาสตราจารย์ต้องแก้ไขงานเขียนของตัวตามคำแนะนำของไคเว่ย

วรรณกรรมจีนโบราณไม่มีทางช่วยให้เขาหาเงินได้มากขึ้นจากการหาบเร่และถีบจักรยาน แต่เขาไม่หยุดอ่านเอกสารและคัมภีร์โบราณจนภรรยาต่อว่า นั่นก็เพราะเขามีใจรักหรือฉันทะนั่นเอง ยามว่างเขาก็โพสต์ความคิดเห็นตามเว็บบอร์ด จนสะดุดตาศาสตราจารย์ผู้หนึ่

ชิว ซีกุย ศาสตราจารย์ด้านวรรณกรรมจีนโบราณ แห่งมหาวิทยาลัยฟูดานที่เซี่ยงไฮ้ เป็นผู้เชิญไคเว่ยเข้าศึกษาต่อชั้นปริญญาเอก โดยไม่ต้องสอบภาษาอังกฤษตามระเบียบของคณะ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่มีวุฒิปริญญาใด ๆ เลย

ไคเว่ยเป็นตัวอย่างที่ชี้ว่าแม้ฐานะและอาชีพจะต่ำต้อย แต่หากมีความใฝ่รู้ รักเรียน และเพียรพยายามแล้วก็สามารถบรรลุถึงความเป็นเลิศ หรือเป็นที่ยอมรับของผู้รู้ได้ ขณะเดียวกันเขาก็ยังบอกเราอีกว่าอย่ามองคนแค่เปลือกนอก ถึงจะเป็นพ่อค้าเร่ สามล้อ หรือคนไร้ปริญญา เขาอาจมีความรู้มากกว่าครูบาอาจารย์ก็ได้

แต่ที่น่าทึ่งไม่น้อยกว่าไคเว่ยก็คือมหาวิทยาลัยฟูดาน ที่พร้อมเปิดรับพ่อค้าเร่และสามล้อถีบเข้าศึกษาต่อชั้นปริญญาเอก ทั้ง ๆ ที่ไม่เข้าเกณฑ์เลย การเปลี่ยนกฎเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยที่อนุญาตให้อาจารย์มีสิทธิรับนักศึกษาปริญญาเอกได้ ทำให้คนอย่างไคเว่ยสามารถเรียนต่อได้สะดวกขึ้น

พ่อค้าเร่อย่างไคเว่ยที่รู้ลึกและยิ่งกว่านักวิชาการหรือศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย อาจมีในเมืองไทย แต่โอกาสที่เขาจะได้เป็นนักศึกษาปริญญาเอกในมหาวิทยาลัยไทยนั้น ดูจะเป็นความฝัน เพราะมหาวิทยาลัยไทยถือกฎเกณฑ์และระเบียบสำคัญยิ่งกว่าอะไรอื่น และที่ยิ่งกว่านั้นก็คือการถือชั้นวรรณะทางวิชาการอย่างเหนียวแน่น โดยถือเอาปริญญาบัตรเป็นเครื่องวัดคน จึงยากที่จะอ้าแขนเปิดรับคนไร้ปริญญาให้มาอยู่ในสถานะเดียวกับตนได้

อย่าว่าแต่คนไร้ปริญญาเลย ได้ยินมาว่า ถ้าคุณไม่จบปริญญาเอก แม้จะได้ปริญญาโทมา และมีงานวิชาการมากมายเพียงใด เดี๋ยวนี้คุณไม่มีสิทธิสอนนักศึกษาปริญญาเอกในมหาวิทยาลัยไทยแล้ว บทบาทนี้เขาสงวนไว้สำหรับผู้มีวรรณะเป็นดอกเตอร์เท่านั้น

พระไพศาล วิสาโล

3 ความคิดเห็น:

  1. รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

    ตอบลบ
  2. นึกถึงคำของหลวงพี่ไพศาล ลอยมาเมื่อได้อ่านบทความนี้ ...
    "โยมอาจารย์จง วางบางอย่างลงบ้างนะ"
    แล้วนึกถึงปิ๊งแว๊บ ของตัวเอง "ไม่จบปริญญาเอกก็ไม่เป็นไร แต่ในสังคมแบบนี้ มันจะต้องจบ (ว่ะ)" และอีกคำพูดหนึ่ง "ไม่แค่จบปริญญาเอกเท่านั้น แต่เราต้องได้ปริญญาเอกด้วย"
    เพราะฉะนั้น พวกเราจงเป็นบุคคลที่ไม่ได้แค่จบปริญญาตรี แต่ จะต้องประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม และเป็นบัณฑิตที่ดี เพื่อตอบแทนต่อสังคมด้วย
    ด้วยรักจากครูสู่ศิษย์

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณ หมี ที่เอาบทความดีๆมาให้อ่าน
    แต่ก้เปนจิงตามบทความของมหาวิทยาลัยในไทยเลย
    คนไทยมักเปนคนที่แบ่งชนชั้นวรรณะกันจิงๆ

    และขอบคุณอาจารย์จง นะครับที่มาแนะนำข้อคิดเตือนสติให้พวกเราฟัง

    ตอบลบ